เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเกือบ 4.8 เปอร์เซ็นต์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันจันทร์ (18) จากเหตุรุนแรงในชาติผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของแอฟริกา และเกิดไฟไหม้โรงกลั่นทางฝั่งทะเลตะวันออกของสหรัฐฯที่ก่อความกังวลด้านอุปทาน ส่วนวอลล์สตรีท ทะยานกว่า 200 จุด ตามหลังข้อมูลผลประกอบการบริษัทปลีกอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านที่ดีเหนือความคาดหมาย
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นราคาปิดที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ขณะที่เบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การขยับขึ้นของราคาน้ำมันมีหลังจากนักรบไนจีเรีย อ้างว่า พวกเขาได้ระเบิดท่อส่งน้ำมัน 2 แห่งและท่อลำเลียงก๊าซที่เขตไนเจอร์ เดลตาและจะปิดกั้นทางน้ำในพื้นที่เพื่อสร้างความวุ่นวายให้กับการส่งออกพลังงานของชาติสมาชิกโอเปกแห่งนี้
ขณะเดียวกัน ในสหรัฐฯ เกิดระเบิดที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทซูโนโค ในมาร์คุสฮูค เพนซิลเวเนีย จนไฟลุกไหม้และก่อความยุ่งเหยิงต่อกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่ผลิตน้ำมันได้ 178,000 บาร์เรลต่อวันแห่งนี้ ก่อนหน้าฤดูกาลแห่งการขับขี่ช่วงฤดูร้อนที่กำลังมาถึง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ (18) ทะยานขึ้นจากผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน Lowe's Cos Inc ที่ดีเกินความคาดหมาย ช่วยจุดประกายแรงเข้าซื้อบนความหวังว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังคลี่คลายและการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มมีเสถียรภาพ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 235.44 จุด (2.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,504.08 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 26.83 จุด (3.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 909.71 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 52.22 จุด (3.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,732.36 จุด
“การเคลื่อนไหวของตลาดบ่งบอกว่านักลงทุนมองว่าจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าและจากนั้นจะดีขึ้นพอประมาณในช่วงสิ้นปี” อัล โกลด์แมน นักวิเคราะห์จากวาโชเวียซีเคียวริตี กล่าว
