xs
xsm
sm
md
lg

เปิดฉากเลือกตั้งปธน.อินโดนีเซีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน ขณะลงคะแนนเลือกตั้ง
เอเจนซี - ฤดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ โดยจะเป็นการชิงชัยระหว่าง ประธานาธิบดีหัวปฏิรูป ซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิรูปและยังครองความนิยมจากประชาชนเป็นอย่างสูง กับพวกผู้นำทางการเมืองที่มีรากเหง้าจากยุคของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต

การรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย มีขึ้นในระหว่างวันที่ 10-16 พฤษภาคม โดยคาดกันว่าจะมีตัวเต็งสามคน คือ รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลา แห่งพรรคโกลคาร์ ซึ่งเคยเป็นกลไกทางการเมืองของซูฮาร์โต อดีตประธานาธิบดีเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี แห่งพรรคพีดีไอ-พี และยุโธโยโน

ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียในวันที่ 8 กรกฏาคมนี้ จะเป็นตัวกำหนดว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะยังคงเดินหน้าแนวทางการปฏิรูปต่อไปได้หรือไม่ และจะมีความสำคัญต่อการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ, การสร้างงาน, รวมทั้งการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไปด้วย

จากผลสำรวจคะแนนนิยมในระยะหลังๆ มานี้ระบุว่า ยุโธโยโนได้คะแนนถึงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เมกาวาตีได้คะแนนราว 5-6 เปอร์เซ็นต์ และคัลลาได้คะแนนราว 3-4 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ค่อนข้างแน่นอนว่ายุโธโยโนจะได้เป็นผู้นำประเทศรอบที่สอง เว้นแต่จะมีเรื่องนอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นมา

"ความสำเร็จอันดับแรกของเขา(ยุโธโยโน)เป็นเรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงแปดเดือนที่ผ่านมา อินโดนีเซียเป็นประเทศหนึ่งในไม่กี่ประเทศของเอเชียที่ยังเดินหน้าไปด้วยดีในท่ามกลางวิกฤตการเงินโลก" อานีส์ บัสเวดัน นักวิเคราะห์การเมืองและอธิการบดีของมหาวิทยาลัยปารามาดินา กล่าว

นอกจากนั้น ยุโธโยโนยังเป็นประธานาธิบดีคนแรกนับตั้งแต่ปี 1998 ที่รั้งตำแหน่งผู้นำได้ครบวาระห้าปี เขาทำให้ประเทศมีความมั่นคง มีเสถียรภาพทางการเมือง สร้างสำนึกประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง อีกทั้งยังแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นไปอย่างมาก และปฏิรูปด้านการทหาร

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางคนเห็นว่าการปฏิรูปยังคืบหน้าไปไม่มากนัก และยังต้องเร่งมือจัดการกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง ยกเครื่องระบบราชการ ระบบศาล และตำรวจ และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่ย่ำแย่
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว พรรคประชาธิปไตยของยุโธโยโนได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงราวหนึ่งในห้า ทำให้ได้ครองที่นั่งมากที่สุดในรัฐสภา ซึ่งเมื่อรวมกับที่นั่งของพรรคที่มีแนวทางอิสลามและอิสลามิสต์แล้ว ก็จะมีเสียงในสภาเกินครึ่งหนึ่ง ทำให้มีความเข้มแข็งที่จะเด้นหน้านโยบายปฏิรูปต่อไปได้มากขึ้น

ทว่า สิ่งที่พวกนักลงทุนจะจับตาดูต่อไปก็คือการเลือกตัวคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เพราะในการเป็นผู้นำสมัยแรก พรรคประชาธิปไตยชนะเลือกตั้งมาด้วยคะแนนเสียงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ยุโธโยโนไม่อาจเลือกตัวรัฐมนตรีที่มีหัวปฏิรูปได้อย่างเต็มที่

ส่วนคู่แข่งคนสำคัญของยุโธโยโน คือ เมกาวาตีจากพรรคพีดีไอ-พี ซึ่งมีแนวโน้มสนับสนุนทหารและถูกมองว่าไม่มีฝีมือด้านเศรษฐกิจ และเมกาวาตีจะเลือกพลเอกปราโบโว ซูบิอันโต นายทหารเกษียณราชการมาลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับเธอ

คู่แข่งอีกคนคือ คัลลา รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ผู้เป็นนักธุรกิจจากสุลาเวซีใต้ คัลลามีชื่อเสียงจากการมีส่วนในข้อตกลงสันติภาพทั้งในอาเจะห์ โปโซ และโมลุกกะ แต่ที่ผ่านมาพรรคโกลคาร์ของคัลลามักคัดค้านการลงมติสำคัญๆ ในรัฐสภา ขณะนี้คัลลามีคะแนนนิยมค่อนข้างต่ำ เช่นเดียวกับ วิรันโต อดีตผู้บัญชาการทหารอินโดนีเซีย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนในติมอร์ตะวันออก ที่เขาเลือกมาเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

แม้ว่าจะไม่มีใครมีคะแนนนิยมสูงเท่ากับยุโธโยโน แต่ทั้งเมกาวาตี ปราโบโว คัลลา และวิรานโต กลับประกาศว่าจะจับมือกันเพื่อคัดค้านยุโธโยโน จึงเท่ากับว่าการผ่านกฎหมายต่างๆ ในรัฐสภาจะยากลำบากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น