เอเจนซี - ราคาน้ำมันพุ่งอีก 3 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันศุกร์(8) จ่อระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากผลตรวจสอบความมั่นคงธนาคารของรัฐบาลสหรัฐฯและข้อมูลด้านแรงงานที่มีแนวโน้มทางในบวก ทั้งนี้สองปัจจัยดังกล่าวก็ผลักให้วอลล์สตรีททะยานขึ้นกว่า 100 จุดเช่นกัน
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.92 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังช่วงหนึ่งของการซื้อขายถีบตัวขึ้นไปถึง 58.69 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่วั้นที่ 17 พฤศจิกายนปีก่อน ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อเดือนที่แล้วในสหรัฐฯมีการปลดพนักงาน 539,000 ตำแหน่ง น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม นับเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าภาวะเศษรฐกิจถดถอยอาจกำลังคลี่คลาย
ทั้งนี้ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากตัวเลขการส่งออกของเยอรมนีที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(8) ยังสามารถปิดในแดนบวกได้ต่อเนื่องจาก หลังได้ปัจจัยบวกจากรายงานผลตรวจสอบความมั่นคงธนาคารของรัฐบาลเช่นเดียวกับข้อมูลตลาดแรงงานที่ดีเกินความคาดหมาย
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 164.96 จุด (1.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,574.81 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.82 จุด (2.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 929.21 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 22.76 จุด (1.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,739.00 จุด
ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังนักลงทุนพอใจข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่ามีแรงงานถูกเลิกจ้างในเดือนมีนาคมน้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ แม้จะทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นไปแตะ 8.9% ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯก็ยืนยันว่าจะไม่มีธนาคารหรือสถาบันการเงินใดต้องล้มละลายเพิ่มอีก