เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดี(19) กระโดดขึ้นไปเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังความเคลื่อนไหวอีดฉีดเงินมหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯของเฟดยังส่งแรงหนุนแก่ตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ทว่าวอลล์สตรีทกลับปิดตัวในแดนลบ เหตุนักลงทุนกังวลว่ามาตรการดังกล่าวอาจฉุดค่าดอลลาร์และเป็นมูลเหตุของภาวะเงินเฟ้อ
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นการก้าวกลับขึ้นไปเหนือ 50 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
ทั้งนี้ช่วงหนึ่งของการซื้อขายน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดเมื่อวันพฤหัสบดี(19) ดีดแรงไปถึง 52.25 ต่อบาร์เรล -- สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2008 ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.67 ดอลลาร์ หลังจากช่วงหนึ่งขึ้นไปเหนือ 51 ดอลลาร์เช่นกัน
นักวิเคราะห์ระบุว่าแรงหนุนที่ส่งให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นอย่างแรง สืบเนื่องแต่คำแถลงเมื่อวันพุธ(18) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ระบุว่าจะอัดฉีดเงินอีก 1.15 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของอเมริกา เพื่อดึงประเทศให้พ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง โดยความเคลื่อนไหวนี้ยังเป็นผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวันพฤหัสบดี(19) ปิดตัวลดลง หลังมีความกังวลว่าแผนอัดฉีดเงินอีก 1.15 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของอเมริกาซึ่งหนึ่งนั้นจะผ่านการเข้าซื้อตราสารหนี้ระยะยาวของรัฐบาล อาจส่งผลร้ายต่อดอลลาร์และเป็นมูลเหตุให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ร่วงลง 85.78 จุด (1.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,400.80 จุด หลังจากปิดตัวในแดนบวก 6 จาก 7 วันหลังสุด เอสแอนด์พี ลดลง 10.31 จุด (1.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 784.04 จุด ขณะที่ แนสแดก ปิดตลาดลดลง 7.74 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,483.48 จุด
ในคำแถลงของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด(เอฟโอเอ็มซี) ระบุว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของกระทรวงการคลังสหรัฐฯเป็นมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ การตัดสินใจนี้ทำให้หลายฝ่ายประหลาดใจเพราะแม้ว่าเฟดจะเคยบอกว่ากำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ แต่ก็ดูเหมือนจะละทิ้งเรื่องนี้ไปในช่วงสองสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค วิลเลียม ดัดลีย์ก็เคยออกมากล่าวว่าวิธีการนี้ไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุดในการบรรเทาภาวะตึงตัวของตลาดการเงิน
ผลจากการตัดสินใจ ตลาดก็ตอบรับข่าวนี้อย่างร้อนแรงในลักษณะต่าง ๆกันเมื่อวันพุธ(18) ราคาหุ้นทั้งหลายพากันดีดขึ้น รวมทั้งอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯก็ร่วงลงมากที่สุดในหนึ่งวันนับตั้งแต่ปี 1987 เป็นต้นมา ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนเมื่อเทียบกับเงินยูโร