เอเอฟพี - การป้องกัน ไม่ให้หวัด 2009 ติดเชื้อกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก ควรจะเป็นความสำคัญอันดับแรกๆ โดยเฉพาะในเอเชีย ผู้เชี่ยวชาญระบุวันนี้ (7)
หากไวรัสทั้งสองชนิดผสมกันในคนๆ เดียว ยีนจะผสมกันและกลายพันธุ์ไปเป็นรูปแบบที่ทั้งร้ายแรงและง่ายในการติดต่อสู่คนมากขึ้น จอห์น ออกฟอร์ด นักไวรัสวิทยาจากคณะแพทยศาสตร์และทันตศาสตร์ ยูนิเวอร์ซิตี้ออฟลอนดอนในอังกฤษ กล่าว
นับตั้งแต่ปี 2003 ไวรัสไข้หวัดนก เอช5เอ็น1 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 250 คน ในกว่า 24 ประเทศ โดย 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก โดย 115 รายที่อินโดนีเซีย, 56 รายที่เวียดนาม, 25 รายที่จีน, 17 รายในไทย และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา 23 รายในอียิปต์
ปิแยร์ ดูเปลซิส ทูตพิเศษด้านการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ประจำกาชาดสากล ระบุว่า อันตรายจากการผสมกันของยีนระหว่างไวรัสทั้งสองเป็นจริง ทั้งในสัตว์และในมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กำลังหวาดเกรง เขาเผยว่า กลุ่มยีนของไข้หวัด 2009 เป็นผลส่วนหนึ่งมาจากนก และมีความเป็นไปได้ว่า ไวรัสชนิดนี้จะมีอันตรายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไนเกล ดิมม็อค ศาสตราจารบ์กิตติคุณของมหาวิทยาลัยวอร์วิค กล่าวว่า มีความเสี่ยงที่ไวรัสทั้งสองจะผสมกันจริง แต่น้อยมาก แม้กระนั้น นักไวรัสวิทยาชาวอังกฤษ ยังเตือนว่า ควรต้องเฝ้าระวังอยู่ดี แม้โอกาสจะเป็นหนึ่งในล้านก็ตาม
ทั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่ามันเร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะต่อไวรัสไข้หวัด 2009 แม้ว่าจำนวนการแพร่ระบาดจะเริ่มลดน้อยลงแล้วก็ตาม