ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพคาดว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ "เอ็ช1เอ็น1" สายพันธุ์ใหม่จะขยายตัวอย่างรวดเร็วในพื้นที่ทางซีกโลกใต้ในไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากที่นั่นกำลังย่างเข้าสู่ฤดูหนาว อีกทั้งคนมักชุมนุมกันอยู่ตามสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่เพียงพอ ดังนั้นโลกจึงควรเฝ้าระวังต่อไปเพราะไวรัสอาจเกิดการกลายพันธุ์และมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น
"เป็นไปได้มากที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในซีกโลกใต้ซึ่งกำลังจะเข้าฤดูหนาว และมันก็เริ่มๆ แล้วด้วย" บิลล์ รอว์ลินสัน หัวหน้าภาควิชาไวรัสวิทยาแห่งโรงพยาบาลปรินซ์ออฟเวลส์ ในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย กล่าว
"ไข้หวัดใหญ่ดูเหมือนเป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่ก็ทำให้คนในออสเตรเลียราว 1,500-3,000 คนเสียชีวิตไปในแต่ละปี แล้วขณะนี้เราพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งถึงแม้จะไม่รุนแรงอย่าง 'เอช5เอ็น1' แต่สถานการณ์ก็ยังน่าเป็นห่วง ผมคิดว่าจะมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกเพราะเรายังไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตัวนี้" เขากล่าวต่อ
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเห็นพ้องกันว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ ดูไม่มีฤทธิ์ร้ายแรงถึงชีวิตมากไปกว่าไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกฤดูหนาว ทว่า มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกยังคงเรียกร้องเมื่อวันจันทร์ (4) ให้ทุกฝ่ายจับตาดูไวรัสดังกล่าวต่อไป เพราะในขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์ข้างหน้าว่าจะเกิดการแพร่ระบาดกว้างขวางทั่วโลกหรือไม่ รวมทั้งยังไม่มีผู้ใดรู้ว่าไวรัสนี้จะพัฒนาตัวเองต่อไปอย่างไร
"เป็นไปได้มากที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในซีกโลกใต้ซึ่งกำลังจะเข้าฤดูหนาว และมันก็เริ่มๆ แล้วด้วย" บิลล์ รอว์ลินสัน หัวหน้าภาควิชาไวรัสวิทยาแห่งโรงพยาบาลปรินซ์ออฟเวลส์ ในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย กล่าว
"ไข้หวัดใหญ่ดูเหมือนเป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่ก็ทำให้คนในออสเตรเลียราว 1,500-3,000 คนเสียชีวิตไปในแต่ละปี แล้วขณะนี้เราพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งถึงแม้จะไม่รุนแรงอย่าง 'เอช5เอ็น1' แต่สถานการณ์ก็ยังน่าเป็นห่วง ผมคิดว่าจะมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกเพราะเรายังไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตัวนี้" เขากล่าวต่อ
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเห็นพ้องกันว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ ดูไม่มีฤทธิ์ร้ายแรงถึงชีวิตมากไปกว่าไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกฤดูหนาว ทว่า มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกยังคงเรียกร้องเมื่อวันจันทร์ (4) ให้ทุกฝ่ายจับตาดูไวรัสดังกล่าวต่อไป เพราะในขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์ข้างหน้าว่าจะเกิดการแพร่ระบาดกว้างขวางทั่วโลกหรือไม่ รวมทั้งยังไม่มีผู้ใดรู้ว่าไวรัสนี้จะพัฒนาตัวเองต่อไปอย่างไร
