เอเอฟพี – ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ เผยอาจต้องใช้เวลาอีกสักพักในการให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะถดถอย โดยชี้ว่าขณะนี้มีสัญญาณสำคัญของเสถียรภาพแล้ว
เขาอ้างถึงตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้น และเงื่อนไขสินเชื่อที่ผ่อนปรนลง แต่เตือนว่า กว่าที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะขยับมาถึงจุดนี้ได้ต้องใช้เวลานาน ดังนั้นเมื่อจะออกจากภาวะถดถอย ที่ยังคงอยู่ย่อมต้องใช้เวลาอีกนานเช่นกัน
ไกธ์เนอร์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการชาลี โรด โชว์ ทางสถานีโทรทัศน์พีบีเอสว่า “มีสัญญาณสำคัญของความมีเสถียรภาพหลายอย่าง เหล่านั้นเป็นขั้นที่จำเป็นต่อการฟื้นตัว เพื่อเริ่มใหม่ แต่นี่ต้องใช้เวลาอีกระยะ”
ความเห็นของเขามีขึ้นภายหลังจากที่เบน เบอร์นานกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจกระเตื้องขึ้นอีกครั้งในปีนี้ โดยอ้างข้อมูลที่ชี้ว่าการหดตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเริ่มชะลอตัวแล้ว แต่ก็ได้เตือนว่า จำนวนผู้ว่างงานอาจสูงขึ้น ขณะที่ระบบเศรษฐกิจก็ยังคงเปราะบาง
โกธ์เนอร์กล่าวแสดงความเห็นด้วยกับการคาดการณ์ของเบอร์นานกีว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวในช่วงปลายปี 2009 แต่ชี้ว่า ยังมีความเสี่ยงมากมายรออยู่ข้างหน้า ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของต่างชาติเริ่มดีขึ้น โดยมีเงินทุนหลั่งไหลเข้าในประเทศ แม้จะยังมีวิกฤตทางเศรษฐกิจ
“หากคุณมอง 6 เดือนที่ผ่านมา 3 เดือนที่ผ่านมา ในปีที่ผ่านมา เวลาที่มีความกังวลอย่างใหญ่หลวง เกี่ยวกับความสมบูรณ์ และเสถียรภาพของระบบการเงินโลก และนี่ยังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน แต่เงินก็ไหลเข้าสหรัฐฯ อย่างปกติ” เขากล่าว
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เริ่มก้าวเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนธันวาคม ปี 2007 หลังจากการล้มเหลวของการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้เกิดวิกฤตสินเชื่อ และการเงิน ไปทั่วโลก
ยิ่งไปกว่านั้น เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังหดตัวครั้งใหญ่ถึง 6.1% ในไตรมาสแรกของปี 2009 หลังจากลดลง 6.3% ในไตรมาสก่อนหน้านั้น แต่ข้อมูลตัวเลขของทั้งรัฐบาลและเอกชนแสดงให้เห็นชัดเจนว่าภาวะถดถอยนั้นเริ่มคลี่คลายแล้ว ขณะที่อัตราคนว่างงานยังเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 25 ปี ที่ 8.5% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาด้วย