(จากเอเชียไทมส์ออนไลน์www.atimes.com)
On the trail of Thaksin in Cambodia
By Stephen Kurczy
05/05/2009
เกาะกง จังหวัดชายแดนที่ไร้ขื่อแปและไร้ชีวิตชีวา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรู้จักกันในฐานะเป็นแดนเถื่อนของกัมพูชา น่าที่จะเป็นสถานที่ซุกซ่อนตัวอันสมบูรณ์แบบสำหรับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้พลัดถิ่น ทว่าพวกคนท้องถิ่นกลับรู้สึกว่าน่าหัวเราะ ต่อกระแสข่าวลืออันดุเดือดที่ว่า เขาอาศัยที่นั่นเป็นสถานที่วางแผนเพื่อก่อความไม่สงบขึ้นในประเทศไทย ถึงแม้เขามีสายสัมพันธ์กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา อีกทั้งมีผลประโยชน์ทางธุรกิจในพื้นที่แถบนี้ตั้งแต่แรกๆ ทว่าคนท้องถิ่นเหล่านี้คิดว่า มันอาจจะเป็นแค่การจำคนผิดก็ได้
เกาะกง, กัมพูชา – มีข่าวลือซึ่งดังอึงคะนึงและเหมือนกับมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้พลัดถิ่นของไทย ได้แอบไปเยือนจังหวัดเกาะกง ที่เป็นจังหวัดชายแดนอันห่างไกลของกัมพูชาอยู่บ่อยๆ เพื่อพบกับพวกพันธมิตรทางการเมือง และวางแผนการขั้นต่อไปในการรณรงค์ต่อสู้เพื่อขับไล่รัฐบาลของประเทศไทย แล้วฟื้นคืนให้ตัวเขาได้กลับขึ้นสู่อำนาจ
บรรดาผู้คนในเกาะกงที่บรรยากาศแสนจะซึมเซา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่แลดูเหมือนคนดังมีชื่อเสียง ไปจนถึงพวกเจ้าหน้าที่สนามบินซึ่งกำลังเฝ้ามองเหนือรันเวย์ที่เป็นหินกรวดอัดแน่นและไม่ได้ใช้งานนานแล้ว ต่างมีเวลามากมายที่จะพูดคุยด้วย อีกทั้งต่างก็มีสายตาสอดส่ายพร้อมสังเกตเห็นอะไรที่ผิดธรรมดาอยู่แล้ว พวกเขาบอกว่าแผนการอันทะเยอทะยานในอดีตของพวกนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่จะแปรเปลี่ยนพื้นที่ชายฝั่งทะเลเถื่อนๆ พื้นๆ แห่งนี้ ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาสนั้น ได้ยุติลงตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มโครงการเสียอีก และคนท้องถิ่นเหล่านี้จำนวนมากรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าหัวเราะอีกทั้งเป็นไปไม่ได้หรอกที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้กำลังหลบหนีผู้นี้จะสนใจ หรือกล้าที่จะมาเยือนที่นี่
มีรายงานข่าวกรองของไทยปรากฏขึ้นเมื่อตอนปลายเดือนเมษายนว่า เครื่องบินไอพ่นส่วนตัวของอดีตเจ้าพ่อด้านการสื่อสารผู้นี้ ได้บินเข้าไปในกรุงพนมเปญ นครหลวงของกัมพูชา จากนั้นก็บินไปที่เกาะกง ซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ตามแนวชายแดนของกัมพูชาที่ติดกับประเทศไทย พวกเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของกัมพูชาต่างปฏิเสธเสียงแข็งว่าทักษิณไม่ได้ไปที่กัมพูชาเลย ทว่าผู้คนจำนวนมากในกรุงเทพฯก็ยังเชื่อว่า ทักษิณอาศัยสายสัมพันธ์ส่วนตัวซึ่งเป็นที่ทราบกันดี ตลอดจนความเกี่ยวพันทางธุรกิจที่มีอยู่กับนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา ในการขอสิทธิพิเศษเพื่อนำเครื่องบินลงจอดในดินแดนประเทศนี้
ทางการไทยได้ถอนหนังสือเดินทางของทักษิณไปเมื่อเดือนที่แล้ว ภายหลังเขาปลุกระดมพวกผู้สนับสนุนผ่านทางวิดิโอลิงก์จากต่างแดน ให้ลงมือทำ “การปฏิวัติของประชาชน” ต่อต้านรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนนำไปสู่เหตุการณ์จลาจลตามท้องถนนในกรุงเทพฯ เชื่อกันว่าทักษิณพูดปราศรัยยั่วยุเหล่านี้จากนครดูไบ ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ซึ่งทางการไทยยังคงพยายามเจรจาต่อรองเพื่อทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน แต่ทักษิณนั้นยังได้รับหนังสือเดินทางจากนิการากัว และ มอนเตเนโกรอีกด้วย ซึ่งสามารถใช้เพื่อหลบหลีกการถูกส่งตัวกลับประเทศไทย และครั้งหลังสุดที่มีผู้พบเห็นปรากฏเป็นข่าว เขาอยู่ในประเทศไลบีเรีย
ผู้สนับสนุนหลักๆ ของทักษิณจำนวนหนึ่งได้หลบลงใต้ดิน ภายหลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ประกาศภาวะฉุกเฉิน และจับกุมผู้นำการประท้วงหลายคนที่เป็นพวกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับทักษิณ พวกที่รอดพ้นการจับกุมไปได้ รวมทั้ง จักรภพ เพ็ญแข ผู้นำคนหนึ่งของการประท้วง ได้หลบหนีไปยังเกาะกง ทั้งนี้ตามรายงานข่าวของสื่อไทยหลายกระแส
ตั้งแต่นั้นมาจักรภพได้พูดจาข่มขู่จากสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผย ว่าจะเปิดการต่อสู้ก่อความไม่สงบด้วยกำลังอาวุธแบบใต้ดินเพื่อต่อต้านรัฐบาลไทย เอเชียไทมส์ออนไลน์เคยได้รายงานไว้ในเดือนเมษายนโดยอ้างแหล่งข่าวระดับท็อปรายหนึ่งของ นปช.ว่า คนที่ทำงานให้ทักษิณกล่าวอ้างว่า ได้ลักลอบขนปืนผ่านกัมพูชาไปให้แก่พวกผู้สนับสนุนเขาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย รัฐบาลไทยก็ถือรายงานเหล่านี้เป็นเรื่องจริงจัง และทำให้ความสัมพันธ์กับกัมพูชาที่มีปัญหาอยู่แล้วยิ่งทรุดลงไปอีก
อย่างไรก็ดี ถ้าหากทักษิณได้เคยเดินทางไปยังเกาะกงเมื่อไม่นานมานี้จริงๆ บรรดาคนที่บริหารจัดการสนามบินโทรมๆ ของเกาะแห่งนี้ก็ระบุว่าไม่เคยพบเห็นเขาเลย แหล่งข่าวรายหนึ่งที่ โซซิเอเต กองเซสซิออนแนร์ ดาแอโรปอร์(Societe Concessionnaire d'Aeroport) ซึ่งเป็นบริษัทฝรั่งเศสที่บริหารจัดการสนามบินต่างๆ ในกัมพูชา บอกว่าไม่ได้มีเครื่องบินไอพ่นส่วนตัวบินเข้าไปในพนมเปญ ในระหว่างเวลาที่กล่าวหากันว่าทักษิณไปเยือนนครหลวงแห่งนั้น ขณะเดียวกัน โบ โฟ (Bou Phou) รองผู้อำนวยการสนามบินเกาะกง ก็บอกว่าครั้งสุดท้ายที่มีเครื่องบินร่อนลงสู่ทางวิ่งที่เป็นหินกรวดอัดของเกาะกง ก็คือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
เขากล่าวว่า ทางวิ่งที่อยู่ในสภาพทรุดโทรมแห่งนี้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดเล็กอย่างเช่น เซสส์นา หรือ อันโตนอฟ 24 ทว่าไม่ใช่เครื่องบินไอพ่นส่วนตัวของทักษิณแน่ๆ พวกกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่านำเครื่องเฮลิคอปเตอร์มาจอดเดือนละหลายๆ ครั้ง เขาเล่าต่อ แต่นั่นก็เป็นกิจกรรมด้านการบินเพียงอย่างเดียวที่สนามบินของเขาให้บริการ อาคารที่พักผู้โดยสารของสนามบินแห่งนี้ปิดไปตั้งแต่ปี 2000 และไม่มีเครื่องบินมาลงเลยตั้งแต่นั้นมา เขากล่าว “ผมมีเวลาเยอะแยะที่จะอ่านหนังสือและหนังสือพิมพ์” โบ โฟ บอก
**ผลประโยชน์เชิงพาณิชย์**
กลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เป็นพันธมิตรกับทักษิณ เคยมีจุดมุ่งหมายที่จะซื้อและปรับปรุงสนามบินเกาะกงเมื่อปี 2003 แต่รัฐบาลกัมพูชาได้ให้สิทธิดังกล่าวแก่ทาง โซซิเอเต กองเซสซิออนแนร์ ดาแอโรปอร์ เสียแล้ว โบ โฟ ระบุ อย่างไรก็ดี ผลประโยชน์ทางธุรกิจในเกาะกง ซึ่งเป็นที่สนใจของพวกมิตรสหายทักษิณเหล่านี้ ดูเหมือนจะเกินเลยไปกว่าสนามบินด้วยซ้ำ ถ้าหากรายงานต่างๆ ของหนังสือพิมพ์มีความถูกต้องแม่นยำ อาทิ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานเอาไว้เมื่อ 1 ปีมาแล้วว่า ทักษิณวางแผนที่จะเปลี่ยนเกาะกงให้กลายเป็น “ฮ่องกงแห่งที่สอง”
ตามรายงานของสื่อเดียวกันนี้ ฮุนเซนถูกทึกทักว่าเห็นพ้องกับแผนการของทักษิณที่จะสร้างบ่อนกาสิโนแห่งที่สอง ตลอดจนศูนย์รวมกิจการความบันเทิงหลายหลากขึ้นที่เกาะกง ในระหว่างที่ทั้งสองคนออกรอบเล่นกอล์ฟกันเมื่อเดือนเมษายน 2008 (อดีตอาณาจักรด้านการสื่อสารของทักษิณ เป็นเจ้าของส่วนแบ่งชิ้นใหญ่โตในตลาดโทรศัพท์มือถือของกัมพูชา) “นายกรัฐมนตรีฮุนเซนมีความไว้เนื้อเชื่อใจและต้องการให้ทักษิณให้คำแนะนำในเรื่องการพัฒนาเกาะกงให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ” รัฐมนตรีกลาโหม เตียบัญ ของกัมพูชา กล่าวเอาไว้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2008
เวลาต่อมาในเดือนเดียวกัน โฆษกของฮุนเซนแถลงยืนยันกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทักษิณมีแผนการที่จะสร้างเมืองบริวารอันทันสมัยขึ้นในเกาะกง สมบูรณ์พร้อมด้วยย่านการเงินและท่าเรือขนถ่ายสินค้า อย่างไรก็ดี พวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกว่ารายงานข่าวเหล่านี้เป็นเพียงคำบอกเล่าและข่าวลือเท่านั้น พวกเขาชี้ว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษของเมืองนี้ที่มีอยู่แล้ว แม้จะได้มีการก่อสร้างประตูทางเข้าขึ้นมาแล้ว แต่มันก็ยังคงเป็นทุ่งนาร้างไม่มีการพัฒนาใดๆ แม้เวลาผ่านมาแล้วหลายปี
“มันเป็นเรื่องที่สับสนปนเปกันน่ะ” เอ็งคิมเลียง (Eng Kimleang) รองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกงบอก “ทักษิณไม่ได้กำลังมาพัฒนาเกาะกงหรอก แต่เป็นบริษัทจีนแห่งหนึ่งต่างหาก ... มันก็แค่เป็นข่าวลือและไม่มีอะไรเป็นทางการเลย” เธอกล่าว เหมือนกับคนอื่นๆ เธอปฏิเสธรายงานต่างๆที่ว่า ทักษิณน่าจะเดินทางมาเยือนพื้นที่แทบนี้เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเธอกล่าวว่าเป็นรายงานข่าวที่ไม่ถูกต้อง
แซม (Sam) เจ้าของบาร์และร้านอาหาร แฟต แซมส์ (Fat Sam's)บอกว่า เพื่อนบ้านของเขาผู้ขับรถเล็กซัสและรู้เรื่องต่างๆ เป็นอันดี ระบุว่าทักษิณไม่ได้อยู่ในเกาะกงหรอก ส่วน ออตโต (Otto) เจ้าของ ออตโตส์ เรสทัวรองต์ แอนด์ เกสต์ เฮาส์ (Otto's Restaurant and Guest House)ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ก็พูดว่า ข่าวลือต่างๆ ในเรื่องเหล่านี้เป็นแค่ “เรื่องโกหกงี่เง่า”
ตอนที่ฮุนเซน หรือผู้ว่าราชการจังหวัดสักคน หลบมาพักผ่อนที่ เกาะกง รีสอร์ต (Koh Kong Resort) มักจะมีเฮลิคอปเตอร์หลายลำส่งเสียงคำรามอยู่เหนือศีรษะให้ได้รับรู้กัน ออตโตชี้ แต่ตอนนี้ข่าวที่ดูน่าสนใจมากที่สุดในเกาะกง กลับเป็นเรื่องที่มีรถยนต์เพิ่มขึ้นมากมาย จากที่เคยมี 2 คนในปี 1999 กลายมาเป็นหลายร้อยแล้วในทุกวันนี้ “มันเคยเป็นเหมือนกับเมืองเล็กๆ ในแดนตะวันตกยุคเก่า มีการยิงปืน มีหลั่งเลือด” เขากล่าว ขณะที่กลุ่มควันกัญชาลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือระเบียงภัตตาคารของเขา เวลานี้ “ที่นี่มันน่าเบื่อ แต่ผมก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้แหละ”
เพียงเมื่อไม่นานมานี้เองเกาะกงยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะเป็นแดนเถื่อนของกัมพูชา จากลักษณะภูมิประเทศที่มีเทือนเขาคาร์ดามอม (Cardamom) ตั้งสกัดอยู่ทางทิศเหนือ และอ่าวไทยแผ่กว้างออกไปทางตอนใต้ โดยที่ชายแดนไทยอยู่ห่างเพียง 12 กิโลเมตร โลกภายนอกจะสามารถเดินทางมาถึงเมืองนี้ได้ก็ต้องนั่งเรือเฟอร์รีต่อๆ กัน 4 ทอด ทั้งนี้จวบจนกระทั่งถึงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว สภาพเช่นนี้จึงเปิดช่องให้เกิดการตัดไม้เถื่อน, การล่าสัตว์อย่างผิดกฎหมาย, ตลอดจนปฏิบัติการลักลอบขนของเถื่อน เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้แก่ดินแดนไร้ขื่อแปแห่งนี้
จากเงินกู้และทีมงานวิศวกรไทย ได้แผ้วถางเส้นทางเพื่อสร้างถนนตลอดจนสะพานข้ามน้ำหลายๆ จุด ซึ่งในที่สุดก็เชื่อมโยงเมืองที่มีประชากรราว 30,000 คนแห่งนี้ตรงถึงกรุงพนมเปญ ทำให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการลงทุนและตำแหน่งงานเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยอย่างทั่วหน้า กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ ในท้องถิ่นระบุว่า ยังคงมีปัญหาการค้ามนุษย์เป็นแรงงานทางเพศ ทว่าไม่เหมือนกับเมื่อสิบปีก่อน เวลานี้พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบมีความพยายามที่จะปราบปรามเรื่องนี้แล้ว
เวลานี้บริษัทจีนแห่งหนึ่งกำลังก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังงานขนาด 18 เมกะวัตต์มูลค่า 326 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บนแม่น้ำสายหนึ่งของจังหวัดนี้ที่มีแม่น้ำอยู่หลายสายเหลือเกิน แผนกการท่องเที่ยวของจังหวัดบันทึกเอาไว้ว่าในปี 2008 มีผู้มาเยือนเพิ่มขึ้น 25% สู่ระดับประมาณ 50,000 คน ตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 16 เมษายน ซึ่งเป็นช่วงปีใหม่เขมร มีผู้มาเยือนเกาะกง 14,000 คน สูงขึ้นจากจำนวน 12,000 คนในปีก่อนหน้านั้น
อาคันตุกะผู้มาเยือนจำนวนมากทีเดียวได้หยุดแวะที่สถานกาสิโนแห่งเดียวของเมือง ซึ่งก็คือ เกาะกง รีสอร์ต ที่มีห้องพัก 521 ห้อง ตั้งอยู่ห่างราว 50 เมตรจากจุดตรวจคนเข้าเมืองจัมเยียม (Cham Yeam) ที่ติดกับบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ของประเทศไทย สถานกาสิโนแห่งนี้เองคือสถานที่ซึ่งรายงานข่าวไม่ยืนยันหลายกระแสระบุว่า ทักษิณได้ใช้เป็นที่พบกับนักการเมืองผู้ใกล้ชิดของเขา นอกจากนั้นคนไทยที่หนีหนีเงื่อมมือกฎหมายคนอื่นๆ ก็ได้ใช้ที่นี่เป็นที่พำนักพักพิงด้วย
ตอนที่เอเชียไทมส์ออนไลน์ไปเที่ยวสถานกาสิโนแห่งนั้นเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้จัดการ ทิวะสอน ธนสิงห์ (Thiwason Thonsing)ได้พาไปชมห้องเพรซิเดนต์สวีต ของฮุนเซน ที่มีอัตราค่าเข้าพัก 1,400 ดอลลาร์ต่อคืน ห้องสวีตแห่งนี้ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง, ห้องน้ำ 2 ห้อง, ครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน, ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร และทิวทัศน์ที่มองได้กว้างไกลของอ่าวไทย “ผมไม่เคยเห็นคุณทักษิณที่นี่มาก่อนเลย” ทิวะสอนกล่าว “ผมถามลูกน้องของผมแล้ว ก็ไม่มีใครบอกว่าเห็นคุณทักษิณ”
หลี วิทวรรณ (Ly Vithavann) หัวหน้าแผนกการท่องเที่ยวจังหวัดเกาะกง ก็ยืนยันว่าผู้ที่มาเยือนเกาะกง รีสอร์ตในช่วงเร็วๆ นี้ไม่มีที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีเลย “ทักษิณไม่เคยมาที่นี่” เขาบอก พร้อมกับเสนอการอธิบายอีกทางหนึ่ง สำหรับรายงานที่ว่ากันว่ามาจากฝ่ายข่าวกรองของไทย ยังมีผู้พำนักในเมืองนี้อีกท่านหนึ่ง นั่นคือ ผู้บังคับการทหารกองทัพราชอาณาจักรกัมพูชาประจำจังหวัดเกาะกง ซึ่งมีหน้าตาเหมือนคนไทยที่มีเชื้อสายจีนอย่างทักษิณ “ยุน เมียน (Yun Mean) มีหน้าตาแบบเดียวกับ ทักษิณ ชินวัตร เลย” เขาอวด
เมื่อสอบถามถึงเรื่องนี้ ยุน เมียน ก็เห็นด้วยเป็นบางส่วน “ลูกน้องผมบอกผมว่า ผมเหมือนกับทักษิณมาก” เขากล่าวพร้อมกับหัวเราะคิกคัก ภายในบ้านของเขาซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดกลางเมือง มีภาพของเขาติดกรอบเรียบร้อยประดับประดาอยู่ตามผนังห้อง โดยเป็นภาพที่เขากำลังรับเหรียญตราต่างๆ จากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ผิวพรรณที่เนียนละเอียดและคางสี่เหลี่ยมทำให้โครงหน้าของเขาคล้ายคลึงกับอดีตนายกรัฐมนตรีไทย เป็นไปได้ไหมว่าใบหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของไทยอาจจะมองเห็น ที่จริงแล้วคือหน้าของเขานี่แหละ? ยุน เมียน ให้คำตอบอย่างไม่แน่ใจ
“ผมไม่เคยได้ยินเรื่องที่สื่อรายงานว่าทักษิณอยู่ในเกาะกง” เขาบอก พร้อมกับพูดต่อไปว่า “แล้วทักษิณก็ไม่เคยมาที่นี่เลย”
สตีเฟน เคิร์คซี เป็นผู้เขียนเรื่องให้แก่เอเชียไทมส์ออนไลน์ เขาพำนักอยู่ในกัมพูชา โดยอาจจะติดต่อเขาได้ที่ kurczy@gmail.com ทั้งนี้ ในการเขียนรายงานข่าวชิ้นนี้ยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจาก ชอว์น ดับเบิลยู คริสพิน ซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ
On the trail of Thaksin in Cambodia
By Stephen Kurczy
05/05/2009
เกาะกง จังหวัดชายแดนที่ไร้ขื่อแปและไร้ชีวิตชีวา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรู้จักกันในฐานะเป็นแดนเถื่อนของกัมพูชา น่าที่จะเป็นสถานที่ซุกซ่อนตัวอันสมบูรณ์แบบสำหรับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้พลัดถิ่น ทว่าพวกคนท้องถิ่นกลับรู้สึกว่าน่าหัวเราะ ต่อกระแสข่าวลืออันดุเดือดที่ว่า เขาอาศัยที่นั่นเป็นสถานที่วางแผนเพื่อก่อความไม่สงบขึ้นในประเทศไทย ถึงแม้เขามีสายสัมพันธ์กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา อีกทั้งมีผลประโยชน์ทางธุรกิจในพื้นที่แถบนี้ตั้งแต่แรกๆ ทว่าคนท้องถิ่นเหล่านี้คิดว่า มันอาจจะเป็นแค่การจำคนผิดก็ได้
เกาะกง, กัมพูชา – มีข่าวลือซึ่งดังอึงคะนึงและเหมือนกับมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้พลัดถิ่นของไทย ได้แอบไปเยือนจังหวัดเกาะกง ที่เป็นจังหวัดชายแดนอันห่างไกลของกัมพูชาอยู่บ่อยๆ เพื่อพบกับพวกพันธมิตรทางการเมือง และวางแผนการขั้นต่อไปในการรณรงค์ต่อสู้เพื่อขับไล่รัฐบาลของประเทศไทย แล้วฟื้นคืนให้ตัวเขาได้กลับขึ้นสู่อำนาจ
บรรดาผู้คนในเกาะกงที่บรรยากาศแสนจะซึมเซา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่แลดูเหมือนคนดังมีชื่อเสียง ไปจนถึงพวกเจ้าหน้าที่สนามบินซึ่งกำลังเฝ้ามองเหนือรันเวย์ที่เป็นหินกรวดอัดแน่นและไม่ได้ใช้งานนานแล้ว ต่างมีเวลามากมายที่จะพูดคุยด้วย อีกทั้งต่างก็มีสายตาสอดส่ายพร้อมสังเกตเห็นอะไรที่ผิดธรรมดาอยู่แล้ว พวกเขาบอกว่าแผนการอันทะเยอทะยานในอดีตของพวกนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่จะแปรเปลี่ยนพื้นที่ชายฝั่งทะเลเถื่อนๆ พื้นๆ แห่งนี้ ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาสนั้น ได้ยุติลงตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มโครงการเสียอีก และคนท้องถิ่นเหล่านี้จำนวนมากรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าหัวเราะอีกทั้งเป็นไปไม่ได้หรอกที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้กำลังหลบหนีผู้นี้จะสนใจ หรือกล้าที่จะมาเยือนที่นี่
มีรายงานข่าวกรองของไทยปรากฏขึ้นเมื่อตอนปลายเดือนเมษายนว่า เครื่องบินไอพ่นส่วนตัวของอดีตเจ้าพ่อด้านการสื่อสารผู้นี้ ได้บินเข้าไปในกรุงพนมเปญ นครหลวงของกัมพูชา จากนั้นก็บินไปที่เกาะกง ซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ตามแนวชายแดนของกัมพูชาที่ติดกับประเทศไทย พวกเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของกัมพูชาต่างปฏิเสธเสียงแข็งว่าทักษิณไม่ได้ไปที่กัมพูชาเลย ทว่าผู้คนจำนวนมากในกรุงเทพฯก็ยังเชื่อว่า ทักษิณอาศัยสายสัมพันธ์ส่วนตัวซึ่งเป็นที่ทราบกันดี ตลอดจนความเกี่ยวพันทางธุรกิจที่มีอยู่กับนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา ในการขอสิทธิพิเศษเพื่อนำเครื่องบินลงจอดในดินแดนประเทศนี้
ทางการไทยได้ถอนหนังสือเดินทางของทักษิณไปเมื่อเดือนที่แล้ว ภายหลังเขาปลุกระดมพวกผู้สนับสนุนผ่านทางวิดิโอลิงก์จากต่างแดน ให้ลงมือทำ “การปฏิวัติของประชาชน” ต่อต้านรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนนำไปสู่เหตุการณ์จลาจลตามท้องถนนในกรุงเทพฯ เชื่อกันว่าทักษิณพูดปราศรัยยั่วยุเหล่านี้จากนครดูไบ ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ซึ่งทางการไทยยังคงพยายามเจรจาต่อรองเพื่อทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน แต่ทักษิณนั้นยังได้รับหนังสือเดินทางจากนิการากัว และ มอนเตเนโกรอีกด้วย ซึ่งสามารถใช้เพื่อหลบหลีกการถูกส่งตัวกลับประเทศไทย และครั้งหลังสุดที่มีผู้พบเห็นปรากฏเป็นข่าว เขาอยู่ในประเทศไลบีเรีย
ผู้สนับสนุนหลักๆ ของทักษิณจำนวนหนึ่งได้หลบลงใต้ดิน ภายหลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ประกาศภาวะฉุกเฉิน และจับกุมผู้นำการประท้วงหลายคนที่เป็นพวกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับทักษิณ พวกที่รอดพ้นการจับกุมไปได้ รวมทั้ง จักรภพ เพ็ญแข ผู้นำคนหนึ่งของการประท้วง ได้หลบหนีไปยังเกาะกง ทั้งนี้ตามรายงานข่าวของสื่อไทยหลายกระแส
ตั้งแต่นั้นมาจักรภพได้พูดจาข่มขู่จากสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผย ว่าจะเปิดการต่อสู้ก่อความไม่สงบด้วยกำลังอาวุธแบบใต้ดินเพื่อต่อต้านรัฐบาลไทย เอเชียไทมส์ออนไลน์เคยได้รายงานไว้ในเดือนเมษายนโดยอ้างแหล่งข่าวระดับท็อปรายหนึ่งของ นปช.ว่า คนที่ทำงานให้ทักษิณกล่าวอ้างว่า ได้ลักลอบขนปืนผ่านกัมพูชาไปให้แก่พวกผู้สนับสนุนเขาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย รัฐบาลไทยก็ถือรายงานเหล่านี้เป็นเรื่องจริงจัง และทำให้ความสัมพันธ์กับกัมพูชาที่มีปัญหาอยู่แล้วยิ่งทรุดลงไปอีก
อย่างไรก็ดี ถ้าหากทักษิณได้เคยเดินทางไปยังเกาะกงเมื่อไม่นานมานี้จริงๆ บรรดาคนที่บริหารจัดการสนามบินโทรมๆ ของเกาะแห่งนี้ก็ระบุว่าไม่เคยพบเห็นเขาเลย แหล่งข่าวรายหนึ่งที่ โซซิเอเต กองเซสซิออนแนร์ ดาแอโรปอร์(Societe Concessionnaire d'Aeroport) ซึ่งเป็นบริษัทฝรั่งเศสที่บริหารจัดการสนามบินต่างๆ ในกัมพูชา บอกว่าไม่ได้มีเครื่องบินไอพ่นส่วนตัวบินเข้าไปในพนมเปญ ในระหว่างเวลาที่กล่าวหากันว่าทักษิณไปเยือนนครหลวงแห่งนั้น ขณะเดียวกัน โบ โฟ (Bou Phou) รองผู้อำนวยการสนามบินเกาะกง ก็บอกว่าครั้งสุดท้ายที่มีเครื่องบินร่อนลงสู่ทางวิ่งที่เป็นหินกรวดอัดของเกาะกง ก็คือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
เขากล่าวว่า ทางวิ่งที่อยู่ในสภาพทรุดโทรมแห่งนี้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดเล็กอย่างเช่น เซสส์นา หรือ อันโตนอฟ 24 ทว่าไม่ใช่เครื่องบินไอพ่นส่วนตัวของทักษิณแน่ๆ พวกกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่านำเครื่องเฮลิคอปเตอร์มาจอดเดือนละหลายๆ ครั้ง เขาเล่าต่อ แต่นั่นก็เป็นกิจกรรมด้านการบินเพียงอย่างเดียวที่สนามบินของเขาให้บริการ อาคารที่พักผู้โดยสารของสนามบินแห่งนี้ปิดไปตั้งแต่ปี 2000 และไม่มีเครื่องบินมาลงเลยตั้งแต่นั้นมา เขากล่าว “ผมมีเวลาเยอะแยะที่จะอ่านหนังสือและหนังสือพิมพ์” โบ โฟ บอก
**ผลประโยชน์เชิงพาณิชย์**
กลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เป็นพันธมิตรกับทักษิณ เคยมีจุดมุ่งหมายที่จะซื้อและปรับปรุงสนามบินเกาะกงเมื่อปี 2003 แต่รัฐบาลกัมพูชาได้ให้สิทธิดังกล่าวแก่ทาง โซซิเอเต กองเซสซิออนแนร์ ดาแอโรปอร์ เสียแล้ว โบ โฟ ระบุ อย่างไรก็ดี ผลประโยชน์ทางธุรกิจในเกาะกง ซึ่งเป็นที่สนใจของพวกมิตรสหายทักษิณเหล่านี้ ดูเหมือนจะเกินเลยไปกว่าสนามบินด้วยซ้ำ ถ้าหากรายงานต่างๆ ของหนังสือพิมพ์มีความถูกต้องแม่นยำ อาทิ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานเอาไว้เมื่อ 1 ปีมาแล้วว่า ทักษิณวางแผนที่จะเปลี่ยนเกาะกงให้กลายเป็น “ฮ่องกงแห่งที่สอง”
ตามรายงานของสื่อเดียวกันนี้ ฮุนเซนถูกทึกทักว่าเห็นพ้องกับแผนการของทักษิณที่จะสร้างบ่อนกาสิโนแห่งที่สอง ตลอดจนศูนย์รวมกิจการความบันเทิงหลายหลากขึ้นที่เกาะกง ในระหว่างที่ทั้งสองคนออกรอบเล่นกอล์ฟกันเมื่อเดือนเมษายน 2008 (อดีตอาณาจักรด้านการสื่อสารของทักษิณ เป็นเจ้าของส่วนแบ่งชิ้นใหญ่โตในตลาดโทรศัพท์มือถือของกัมพูชา) “นายกรัฐมนตรีฮุนเซนมีความไว้เนื้อเชื่อใจและต้องการให้ทักษิณให้คำแนะนำในเรื่องการพัฒนาเกาะกงให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ” รัฐมนตรีกลาโหม เตียบัญ ของกัมพูชา กล่าวเอาไว้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2008
เวลาต่อมาในเดือนเดียวกัน โฆษกของฮุนเซนแถลงยืนยันกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทักษิณมีแผนการที่จะสร้างเมืองบริวารอันทันสมัยขึ้นในเกาะกง สมบูรณ์พร้อมด้วยย่านการเงินและท่าเรือขนถ่ายสินค้า อย่างไรก็ดี พวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกว่ารายงานข่าวเหล่านี้เป็นเพียงคำบอกเล่าและข่าวลือเท่านั้น พวกเขาชี้ว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษของเมืองนี้ที่มีอยู่แล้ว แม้จะได้มีการก่อสร้างประตูทางเข้าขึ้นมาแล้ว แต่มันก็ยังคงเป็นทุ่งนาร้างไม่มีการพัฒนาใดๆ แม้เวลาผ่านมาแล้วหลายปี
“มันเป็นเรื่องที่สับสนปนเปกันน่ะ” เอ็งคิมเลียง (Eng Kimleang) รองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกงบอก “ทักษิณไม่ได้กำลังมาพัฒนาเกาะกงหรอก แต่เป็นบริษัทจีนแห่งหนึ่งต่างหาก ... มันก็แค่เป็นข่าวลือและไม่มีอะไรเป็นทางการเลย” เธอกล่าว เหมือนกับคนอื่นๆ เธอปฏิเสธรายงานต่างๆที่ว่า ทักษิณน่าจะเดินทางมาเยือนพื้นที่แทบนี้เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเธอกล่าวว่าเป็นรายงานข่าวที่ไม่ถูกต้อง
แซม (Sam) เจ้าของบาร์และร้านอาหาร แฟต แซมส์ (Fat Sam's)บอกว่า เพื่อนบ้านของเขาผู้ขับรถเล็กซัสและรู้เรื่องต่างๆ เป็นอันดี ระบุว่าทักษิณไม่ได้อยู่ในเกาะกงหรอก ส่วน ออตโต (Otto) เจ้าของ ออตโตส์ เรสทัวรองต์ แอนด์ เกสต์ เฮาส์ (Otto's Restaurant and Guest House)ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ก็พูดว่า ข่าวลือต่างๆ ในเรื่องเหล่านี้เป็นแค่ “เรื่องโกหกงี่เง่า”
ตอนที่ฮุนเซน หรือผู้ว่าราชการจังหวัดสักคน หลบมาพักผ่อนที่ เกาะกง รีสอร์ต (Koh Kong Resort) มักจะมีเฮลิคอปเตอร์หลายลำส่งเสียงคำรามอยู่เหนือศีรษะให้ได้รับรู้กัน ออตโตชี้ แต่ตอนนี้ข่าวที่ดูน่าสนใจมากที่สุดในเกาะกง กลับเป็นเรื่องที่มีรถยนต์เพิ่มขึ้นมากมาย จากที่เคยมี 2 คนในปี 1999 กลายมาเป็นหลายร้อยแล้วในทุกวันนี้ “มันเคยเป็นเหมือนกับเมืองเล็กๆ ในแดนตะวันตกยุคเก่า มีการยิงปืน มีหลั่งเลือด” เขากล่าว ขณะที่กลุ่มควันกัญชาลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือระเบียงภัตตาคารของเขา เวลานี้ “ที่นี่มันน่าเบื่อ แต่ผมก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้แหละ”
เพียงเมื่อไม่นานมานี้เองเกาะกงยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะเป็นแดนเถื่อนของกัมพูชา จากลักษณะภูมิประเทศที่มีเทือนเขาคาร์ดามอม (Cardamom) ตั้งสกัดอยู่ทางทิศเหนือ และอ่าวไทยแผ่กว้างออกไปทางตอนใต้ โดยที่ชายแดนไทยอยู่ห่างเพียง 12 กิโลเมตร โลกภายนอกจะสามารถเดินทางมาถึงเมืองนี้ได้ก็ต้องนั่งเรือเฟอร์รีต่อๆ กัน 4 ทอด ทั้งนี้จวบจนกระทั่งถึงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว สภาพเช่นนี้จึงเปิดช่องให้เกิดการตัดไม้เถื่อน, การล่าสัตว์อย่างผิดกฎหมาย, ตลอดจนปฏิบัติการลักลอบขนของเถื่อน เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้แก่ดินแดนไร้ขื่อแปแห่งนี้
จากเงินกู้และทีมงานวิศวกรไทย ได้แผ้วถางเส้นทางเพื่อสร้างถนนตลอดจนสะพานข้ามน้ำหลายๆ จุด ซึ่งในที่สุดก็เชื่อมโยงเมืองที่มีประชากรราว 30,000 คนแห่งนี้ตรงถึงกรุงพนมเปญ ทำให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการลงทุนและตำแหน่งงานเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยอย่างทั่วหน้า กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ ในท้องถิ่นระบุว่า ยังคงมีปัญหาการค้ามนุษย์เป็นแรงงานทางเพศ ทว่าไม่เหมือนกับเมื่อสิบปีก่อน เวลานี้พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบมีความพยายามที่จะปราบปรามเรื่องนี้แล้ว
เวลานี้บริษัทจีนแห่งหนึ่งกำลังก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังงานขนาด 18 เมกะวัตต์มูลค่า 326 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บนแม่น้ำสายหนึ่งของจังหวัดนี้ที่มีแม่น้ำอยู่หลายสายเหลือเกิน แผนกการท่องเที่ยวของจังหวัดบันทึกเอาไว้ว่าในปี 2008 มีผู้มาเยือนเพิ่มขึ้น 25% สู่ระดับประมาณ 50,000 คน ตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 16 เมษายน ซึ่งเป็นช่วงปีใหม่เขมร มีผู้มาเยือนเกาะกง 14,000 คน สูงขึ้นจากจำนวน 12,000 คนในปีก่อนหน้านั้น
อาคันตุกะผู้มาเยือนจำนวนมากทีเดียวได้หยุดแวะที่สถานกาสิโนแห่งเดียวของเมือง ซึ่งก็คือ เกาะกง รีสอร์ต ที่มีห้องพัก 521 ห้อง ตั้งอยู่ห่างราว 50 เมตรจากจุดตรวจคนเข้าเมืองจัมเยียม (Cham Yeam) ที่ติดกับบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ของประเทศไทย สถานกาสิโนแห่งนี้เองคือสถานที่ซึ่งรายงานข่าวไม่ยืนยันหลายกระแสระบุว่า ทักษิณได้ใช้เป็นที่พบกับนักการเมืองผู้ใกล้ชิดของเขา นอกจากนั้นคนไทยที่หนีหนีเงื่อมมือกฎหมายคนอื่นๆ ก็ได้ใช้ที่นี่เป็นที่พำนักพักพิงด้วย
ตอนที่เอเชียไทมส์ออนไลน์ไปเที่ยวสถานกาสิโนแห่งนั้นเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้จัดการ ทิวะสอน ธนสิงห์ (Thiwason Thonsing)ได้พาไปชมห้องเพรซิเดนต์สวีต ของฮุนเซน ที่มีอัตราค่าเข้าพัก 1,400 ดอลลาร์ต่อคืน ห้องสวีตแห่งนี้ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง, ห้องน้ำ 2 ห้อง, ครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน, ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร และทิวทัศน์ที่มองได้กว้างไกลของอ่าวไทย “ผมไม่เคยเห็นคุณทักษิณที่นี่มาก่อนเลย” ทิวะสอนกล่าว “ผมถามลูกน้องของผมแล้ว ก็ไม่มีใครบอกว่าเห็นคุณทักษิณ”
หลี วิทวรรณ (Ly Vithavann) หัวหน้าแผนกการท่องเที่ยวจังหวัดเกาะกง ก็ยืนยันว่าผู้ที่มาเยือนเกาะกง รีสอร์ตในช่วงเร็วๆ นี้ไม่มีที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีเลย “ทักษิณไม่เคยมาที่นี่” เขาบอก พร้อมกับเสนอการอธิบายอีกทางหนึ่ง สำหรับรายงานที่ว่ากันว่ามาจากฝ่ายข่าวกรองของไทย ยังมีผู้พำนักในเมืองนี้อีกท่านหนึ่ง นั่นคือ ผู้บังคับการทหารกองทัพราชอาณาจักรกัมพูชาประจำจังหวัดเกาะกง ซึ่งมีหน้าตาเหมือนคนไทยที่มีเชื้อสายจีนอย่างทักษิณ “ยุน เมียน (Yun Mean) มีหน้าตาแบบเดียวกับ ทักษิณ ชินวัตร เลย” เขาอวด
เมื่อสอบถามถึงเรื่องนี้ ยุน เมียน ก็เห็นด้วยเป็นบางส่วน “ลูกน้องผมบอกผมว่า ผมเหมือนกับทักษิณมาก” เขากล่าวพร้อมกับหัวเราะคิกคัก ภายในบ้านของเขาซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดกลางเมือง มีภาพของเขาติดกรอบเรียบร้อยประดับประดาอยู่ตามผนังห้อง โดยเป็นภาพที่เขากำลังรับเหรียญตราต่างๆ จากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ผิวพรรณที่เนียนละเอียดและคางสี่เหลี่ยมทำให้โครงหน้าของเขาคล้ายคลึงกับอดีตนายกรัฐมนตรีไทย เป็นไปได้ไหมว่าใบหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของไทยอาจจะมองเห็น ที่จริงแล้วคือหน้าของเขานี่แหละ? ยุน เมียน ให้คำตอบอย่างไม่แน่ใจ
“ผมไม่เคยได้ยินเรื่องที่สื่อรายงานว่าทักษิณอยู่ในเกาะกง” เขาบอก พร้อมกับพูดต่อไปว่า “แล้วทักษิณก็ไม่เคยมาที่นี่เลย”
สตีเฟน เคิร์คซี เป็นผู้เขียนเรื่องให้แก่เอเชียไทมส์ออนไลน์ เขาพำนักอยู่ในกัมพูชา โดยอาจจะติดต่อเขาได้ที่ kurczy@gmail.com ทั้งนี้ ในการเขียนรายงานข่าวชิ้นนี้ยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจาก ชอว์น ดับเบิลยู คริสพิน ซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ