เอเจนซี / เอเอฟพี – พบชาวอเมริกันเสียชีวิต จากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นรายแรกแล้ว ขณะที่เชื้อมรณะยังลุกลามไม่เลิก ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อ 403 ราย ในพื้นที่ 38 มลรัฐของสหรัฐฯ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มเป็น 1,491 ราย ใน 22 ประเทศ
** พบชาวอเมริกันรายแรกที่เสียชีวิตจากหวัดพันธุ์ใหม่
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ ยืนยันเมื่อวันอังคาร (5) ว่า พบชาวอเมริกันรายแรกที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้ว โดยผู้เสียชีวิตเป็นหญิง วัย 30 กว่าปี ที่อาศัยอยู่ในมลรัฐเทกซัส และถือเป็นผู้เสียชีวิตนอกประเทศเม็กซิโกเป็นรายที่ 2 ต่อจากเด็กวัย 23 เดือนชาวเม็กซิกัน ที่มาเสียชีวิตในมลรัฐเทกซัสของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน
ดัก แม็คไบรด์ โฆษกหน่วยงานด้านสาธารณสุขประจำมลรัฐเทกซัส เปิดเผยกับสำนักข่าว เอเอฟพี ว่า หญิงชาวอเมริกันรายนี้ เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ (4) หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนานถึง 3 สัปดาห์และในเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตไม่น่าจะเดินทางไปเม็กซิโกในช่วงที่ผ่านมา แต่เธออาศัยอยู่ในเขตคาเมรอน เคาน์ตี ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ใต้สุดของเทกซัส และอยู่ติดกับพรมแดนของเม็กซิโก
ด้าน ริชาร์ด อี. เบสเซอร์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ ได้เพิ่มเป็น 403 รายแล้วในขณะนี้ และพบผู้ติดเชื้อใน 38 มลรัฐ โดยมลรัฐจอร์เจียและมลรัฐเมน ถือเป็น 2 มลรัฐล่าสุดที่มีการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้
ขณะที่ แคธลีน เซเบเลียส รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่า มีแนวโน้มจะพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นในสหรัฐฯ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐฯ จะไม่ร้ายแรงเท่ากับในเม็กซิโกก็ตาม
** กัวเตมาลาพบผู้ติดเชื้อรายแรก
กัวเตมาลากลายเป็นประเทศที่ 22 ของโลกแล้วที่ยืนยันว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศวันพุธ (6)
ประธานาธิบดีอัลบาโร โกลอม กาบาเยโรส ออกมาแถลงที่กรุงกัวเตมาลา ซิตี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ โดยระบุว่า พบผู้ติดเชื้อจำนวน 1 รายในกัวเตมาลา แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อรายนี้ รวมทั้ง ยังไม่ได้ระบุว่า ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวเคยเดินทางไปยังเม็กซิโกซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านทางทิศเหนือของกัวเตมาลาด้วยหรือไม่
ขณะที่ ราฟาเอล เอสปาดา รองประธานาธิบดีกัวเตมาลา ยืนยันว่า ทางการจะดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดขั้นสูงสุดในประเทศ และพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับองค์การอนามัยโลก และคณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนานาชาติ
** เม็กซิโกระบุยอดตายพุ่งเป็น 29 ศพแล้ว
โฮเซ อังเฆล กอร์โดบา รัฐมนตรีสาธารณสุขของเม็กซิโก แถลงเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เป็น 29 รายแล้ว ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มเป็น 913 ราย
นอกจากนั้น กอร์โดบา ยังเปิดเผยว่า ทางการพบผู้เสียชีวิตอีก 39 คน ซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยันว่า เสียชีวิตเพราะติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่โดยคนเหล่านี้เป็นผู้ที่เสียชีวิตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจากปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจทั้งสิ้น
ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโกส่วนใหญ่ จะเป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 20 - 39 ปี โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อชนิดนี้ ได้เสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ท้องถนนในกรุงเม็กซิโก ซิตี กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งตั้งแต่เมื่อวันพุธ (6) หลังจากที่ประธานาธิบดีเฟลิเป กัลเดรอน อิโนโฮซา ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชน ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้ง โรงเรียนระดับมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย จะเปิดทำการเรียนการสอนอีกครั้ง ขณะที่ร้านค้าและร้านอาหารต่าง ๆ เริ่มทำความสะอาด เพื่อเตรียมต้อนรับลูกค้าอีกครั้งเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อกุสติน การ์สเตนส์ รัฐมนตรีคลังของเม็กซิโกยอมรับว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของเม็กซิโก ที่คาดว่าน่าจะชะลอตัวลงร้อยละ 0.3-0.5 ในปีนี้
นอกจากนั้น การ์สเตนส์ ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลเม็กซิโกอาจต้องสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีอีกกว่า 752 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการที่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศต้องหยุดชะงักในช่วงที่ผ่านมา แต่รัฐบาลพร้อมดำเนินมาตรการด้านภาษีและเงินทุนฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือธุรกิจภาคต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้
** จีนงดออกวีซ่าด่วนสำหรับชาวอเมริกัน
เว็บไซต์สถานทูตจีนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพุธ (6)ว่าทางการจีนจะขอระงับการให้บริการวีซ่าด่วนและวีซ่าด่วนพิเศษสำหรับชาวอเมริกัน แต่ไม่ได้ระบุเหตุผลว่ามีความเกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่
ในแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า จีนจะขอเปลี่ยนแปลงกระบวนการขอวีซ่า เป็น 6 วันทำการ รวมทั้ง จะขอระงับการให้บริการวีซ่าแบบด่วนและด่วนพิเศษ โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นมาตรการเพื่อสกัดกั้นเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1ไม่ให้เข้าระบาดในจีนหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ไม่มีการระบุว่ามาตรการนี้ของจีนจะครอบคลุมไปถึงประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ ด้วยหรือไม่เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เจมส์ สไตน์เบิร์ก รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯระบุว่า การที่ทางการจีนออกมาตรการดังกล่าว น่าจะเป็นการเพิ่มความเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เช่นเดียวกับมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกันและชาวแคนาดาในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ มีความเข้าใจดีถึงจุดมุ่งหมายของทางการจีนที่ไม่ต้องการให้เชื้อไวรัสชนิดนี้แพร่ระบาดเข้าไปในประเทศ แต่ก็เรียกร้องให้จีนยกเลิกมาตรการดังกล่าวโดยเร็ว หากสถานการณ์การแพร่ระบาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
**พบลูกเรือมะกันราว 50 นาย ต้องสงสัยติดเชื้อหวัดพันธุ์ใหม่
กองทัพเรือสหรัฐฯ มีคำสั่งยกเลิกการส่งเรือที่ประจำการ ณ ฐานทัพเรือ พอยท์ โลมา ในเมืองซานดิเอโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมเป็นการชั่วคราว พร้อมมีคำสั่งสั่งให้เจ้าหน้าที่กองทัพเรือและพลเรือนจำนวน 22,000 คนที่ประจำการในฐานทัพเรือแห่งนี้มารายงานตัวเพื่อรับการตรวจเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นการด่วน หลังจากมีการยืนยันว่า พบลูกเรือที่มีอาการต้องสงสัยว่า อาจติดเชื้อไวรัสชนิดนี้
โฆษกกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า พบลูกเรือบนเรือรบ “ยูเอเอส ดูบูเก” ราว 50 นายที่ต้องสงสัยว่า อาจติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่โดยในขณะนี้ลูกเรือที่คาดว่าจะติดเชื้อต่างได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสทามิฟลูแล้ว และกำลังฟื้นตัวจากอาการป่วย ส่งผลให้ต้องมีการยกเลิกการส่งเรือรบลำดังกล่าว และเรือรบลำอื่นๆ อีกหลายลำในฐานทัพแห่งนี้ ออกไปปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้แบบไม่มีกำหนด ซึ่งรวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ และการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ลูกเรืออีก 370 นายของเรือรบลำดังกล่าว ซึ่งไม่แสดงอาการป่วยได้เริ่มเข้ารับการรักษาเพื่อป้องกันการติดเชื้อแล้ว ขณะที่ตัวเรือก็ถูกทำความสะอาด และฆ่าเชื้อแล้วเช่นกัน
** บรูไน สั่งกักตัวทหารอังกฤษ 200 นาย
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ทหารของกองทัพอังกฤษราว 200 นาย ซึ่งเพิ่งเดินทางมาถึงยังบรูไนดารุสซาลาม เพื่อปฏิบัติภารกิจซ้อมรบถูกทางการบรูไนสั่งกักบริเวณ หลังพบว่า มีทหารที่มีอาการต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
รายงานข่าวระบุว่า ทหารอังกฤษประมาณ 200 นาย ถูกสั่งให้อยู่แต่ภายในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งใกล้กับสนามบินนานาชาติของบรูไน หลังจากพบว่า มีทหารอย่างน้อย 3 นาย ที่มีอาการต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม ซูโวย อุซมัน รัฐมนตรีสาธารณสุขของบรูไน ออกมาเปิดเผยเมื่อวันพุธ (6) ว่า ทางการบรูไนได้สั่งปล่อยตัวทหารอังกฤษทั้งหมดแล้ว เนื่องจากผลการตรวจร่างกายของทหารที่ต้องสงสัยออกมาเป็นลบ โดยในขณะนี้ทหารอังกฤษทั้งหมดได้ถูกย้ายไปยังสถานที่ปลอดภัยแห่งหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผย
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่าทหารเหล่านี้เดินทางมาจากอังกฤษโดยแวะที่ฮ่องกงซึ่งเป็นสถานที่ที่เพิ่งพบผู้ติดเชื้อเป็นรายแรกของทวีปเอเชียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะเดินทางต่อมายังบรูไนเพื่อร่วมการซ้อมรบ