เอเจนซี - ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ชี้ ธุรกิจท่องเที่ยวและการค้าของเอเชียอาจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทว่า บทเรียนจากโรคซาร์สในปี 2003 จะช่วยให้รับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ส่วนไทยนั้นอาจฟื้นตัวช้ากว่าเพื่อนเพราะการเมืองยังไร้เสถียรภาพ
จงหวา ลี รักษาการหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี ระบุในการให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ ระหว่างการประชุมประจำปีของเอดีบีเมื่อวานนี้ (3) ว่า เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียอาจจะแตะระดับต่ำสุดของภาวะถดถอยแล้ว แต่การฟื้นตัวครั้งใหญ่ยังต้องรอดีมานด์จากประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกอยู่
แต่ ลี ระบุด้วยว่า ประเทศที่ยังไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง เช่น ไทย อาจฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ “เหตุผลที่เราคิดว่าแนวโน้มของประเทศไทยนั้นยังไม่แน่นอน และเศรษฐกิจไทยยังไม่แตะระดับต่ำสุด ก็เพราะมีความผันผวนทางการเมืองอยู่ นอกเหนือไปจากเรื่องที่ไทยมีเศรษฐกิจแบบเปิดและได้รับผลกระทบจากการส่งออกด้วย”
นอกจากนั้น ลี ยังกล่าวถึงการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ว่า จะส่งผลกระทบสองรูปแบบด้วยกัน คือ “อย่างแรก จะกระทบการท่องเที่ยวและการเคลื่อนย้ายแรงงาน อย่างที่สอง คือ มันอาจจะกระทบกับการบริโภคภายในประเทศด้วย ซึ่งเป็นผลกระทบเชิงจิตวิทยาของผู้บริโภค”
“แต่ผมคิดว่าเอเชียมีการเตรียมรับมือ (กับไว้รัสไข้หวัดใหญ่) อย่างดี เพราะภูมิภาคนี้ประสบการณ์จากการต่อสู้กับโรคซาร์สมาแล้ว”
ลี เตือนด้วยว่าจะต้องไม่มองเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเอเชียในแง่ดีเกินไป เพราะ “มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเอเชียที่จะเปลี่ยนกลับมามีเศรษฐกิจบูมอีกครั้งอย่างที่เคยเกิดขึ้นก่อนปี 2007 ก่อนที่ความต้องการจากพวกประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าจะกลับคืนมาแข็งแรงเต็มที่อีกครั้งแล้ว”
เขาบอกว่า เอเชียได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น เพราะระบบธนาคารของเอเชียค่อนข้างแข็งแกร่ง จึงยังขยายสินเชื่อต่อได้ และสถานการณ์ครั้งนี้ก็แตกต่างจากตอนที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียเมื่อปี 1997-1998 ด้วย