ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานว่า ตลาดทุนในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียเริ่มที่จะมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจที่ค่อนข้างจะมีความยืดหยุ่นในภูมิภาคแห่งนี้จะช่วยสนับสนุนเรื่องการฟื้นตัว ขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลงและความเชื่อมั่นนักลงทุนฟื้นคืนมา
อย่างไรก็ตาม หนทางของการฟื้นตัวของตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และตลาดเงินในเอเชีย จะยังคงไม่เกิดขึ้นในทันทีทันใด เนื่องจากความผันผวนของระยะเวลาและความรุนแรงของเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลงอย่างปัจจุบัน
รายงานของเอดีบี มีเนื้อหาครอบคลุมถึงเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ 11 ประเทศในเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
เอดีบี ระบุว่า ตลาดเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียได้รับผลกระทบหนักกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่เศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียจำนวนมากจะยังคงขยายตัวต่อไปได้ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจในโลกชะลอตัวลง โดยตลาดเงินของเอเชียน่าจะคืบหน้ามากกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค กระแสเงินทุนที่ไหลออกจากภูมิภาคเอเชียชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่มีการถอนเงินทุนเป็นจำนวนมากในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่านักลงทุนต่างชาติมีมุมมองที่เป็นลบน้อยลงเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจในภูมิภาค สำหรับตลอดทั้งปีนี้ กระแสเงินทุนไหลเข้ามายังภูมิภาคคาดว่าจะยังคงเป็นบวก แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่มียอดการลงทุนสูงเป็นประวัติการณ์มากก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หนทางของการฟื้นตัวของตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และตลาดเงินในเอเชีย จะยังคงไม่เกิดขึ้นในทันทีทันใด เนื่องจากความผันผวนของระยะเวลาและความรุนแรงของเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลงอย่างปัจจุบัน
รายงานของเอดีบี มีเนื้อหาครอบคลุมถึงเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ 11 ประเทศในเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
เอดีบี ระบุว่า ตลาดเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียได้รับผลกระทบหนักกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่เศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียจำนวนมากจะยังคงขยายตัวต่อไปได้ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจในโลกชะลอตัวลง โดยตลาดเงินของเอเชียน่าจะคืบหน้ามากกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค กระแสเงินทุนที่ไหลออกจากภูมิภาคเอเชียชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่มีการถอนเงินทุนเป็นจำนวนมากในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่านักลงทุนต่างชาติมีมุมมองที่เป็นลบน้อยลงเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจในภูมิภาค สำหรับตลอดทั้งปีนี้ กระแสเงินทุนไหลเข้ามายังภูมิภาคคาดว่าจะยังคงเป็นบวก แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่มียอดการลงทุนสูงเป็นประวัติการณ์มากก็ตาม