เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดีดตัวกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์(1) สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ หลังได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯที่ดีขึ้น ขณะที่วอลล์สตรืทผันผวนก่อนปิดตลาดในแดนบวกได้เล็กน้อย หลังนักลงทุนรอดูการประกาศข้อมูลของภาครถยนต์
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ปรับขึ้น 2.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายทะยานถึง 53.65 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การขยับขึ้นของราคาน้ำมันมีขึ้นตามหลังผลสำรวจพบความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ ชาติผู้ใช้พลังงานมากที่สุดในโลกในเดือนเมษายน สูงขึ้นในระดับในเหนือกว่าช่วงเดือนที่ผ่านๆมานับตั้งแต่การล้มละลายของเลห์แมนบราเธอร์ส เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน
ขณะเดียวกันราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากผลสำรวจของรอยเตอร์ที่พบว่าในเดือนเมษายนที่ผ่านมาโอเปกสามารถลดกำลังผลิตลงตามข้อตกลงได้ถึง 84 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่มีมติลดกำลังผลิต 4.2 ล้านบาร์เรลต่อวันช่วงปลายปีที่แล้ว ในความพยายามฉุดรั้งราคาที่ดิ่งลงมาเกือบ 100 ดอลลาร์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(1) การซื้อขายผันผวนก่อนปิดตลาดในแดนบวก จากข่าวในภาคโรงงานทั้งดีและแย่ นอกจากนี้นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการประกาศข้อมูลยอดขายในเดือนเมษายนรถยนต์ของบริษัทต่างๆ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 44.29 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,212.41 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.71 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 877.52 จุด ขณะที่ แนสแดค เพิ่มขึ้น 1.90 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,719.20 จุด
รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าคำสั่งผลิตของโรงงานต่างๆลดลง 0.9 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมีนาคม ตามขอบเขตที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจในเดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา
หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์อยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังนักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลยอดขายในเดือนเมษายนของบริษัทต่างๆ และจากกรณีไครส์เลอร์ต้องไปปรากฏตัวต่อศาลล้มละลายนิวยอร์ก หนึ่งวันหลังจากยื่นขอเข้าสู่ภาวะล้มละลายตามหมวด 11
