xs
xsm
sm
md
lg

เอเชียเฝ้าระวังหวัดใหญ่เม็กซิโก คุมเข้มสนามบิน-ตุนยาต้านไวรัส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครูอนุบาลกำลังสอนเด็กนักเรียนล้างมือ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในมณฑลอันฮุย
เอเจนซี- ประชาชนทั่วทั้งเอเชียเฝ้าติดตามข่าวไข้หวัดใหญ่หมูที่แพร่ระบาดในเม็กซิโกอย่างใกล้ชิด หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เพิ่มระดับการเตือนภัยสูงขึ้นอีก โดยหลายประเทศได้เพิ่มความระมัดระวังตามสนามบินและโรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งมีการสั่งสำรองยาต้านไวรัสและเวชภัณฑ์อื่นๆ เพื่อรับมือหากมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง

ร้านขายยาหลายแห่งในเมืองใหญ่ระบุวันนี้ (28) ว่าหน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูก และยาต้านไวรัส "รีเลนซา" และ "ทามิฟลู" ขายหมดเกลี้ยงทีเดียว

"มันชัดเจนมากเลย เพราะคนมาซื้อหน้ากากกันทั้งวัน" ไซรัส ชาน เจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่งในฮ่องกงบอก เขาระบุด้วยว่าหน้ากากอนามัยที่มีสำรองอยู่ 10,000 ชิ้นขายหมดเกลี้ยงสต๊อก และตอนนี้มีเหลือแต่เพียงขนาดสำหรับเด็กเท่านั้น

"นับตั้งแต่ที่เกิดโรคซาร์ส์แล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มีคนซื้อผ้าปิดจมูกกันมากขนาดนี้" ชานเล่าว่ายังมีลูกค้าทยอยมาขอซื้อกันไม่หยุด แต่เขาก็ได้แต่บอกให้รอสินค้าล็อตใหม่

อย่างไรก็ตาม ผู้คนในเอเชียก็ไม่ได้ถึงกับตื่นตระหนกมากนัก เพราะขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกอย่างเป็นทางการ อีกทั้งภูมิภาคนี้ก็เคยเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส์และไข้หวัดนกสายพันธุ์ "เอช5 เอ็น1" มาแล้ว

ที่เกาหลีใต้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังตรวจสอบผู้ป่วยหญิงวัย 51 ปีรายหนึ่ง ซึ่งสงสัยว่าอาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกภายหลังเดินทางกลับจากประเทศนั้น

"ตอนนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ในเรื่องนี้ ผมได้รับโทรศัพท์สอบถามสองสามรายว่ามียาต้านไวรัสและหน้ากากอนามัยแบบพิเศษขายหรือเปล่า" เจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่งในกรุงโซลบอก "ผมคิดว่าคนเกาหลีใต้คงคุ้นเคยกับการแพร่ระบาดแบบนี้มา 10 ปีแล้ว แต่ผมก็จะสั่งยาทามิฟลูมาสำรองไว้ในร้านเพิ่ม"

อย่างไรก็ตาม ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการแพทย์ ตลอดจนปัญหาความยากจนและจำนวนประชากรมหาศาลในเอเชีย โดยเฉพาะจีนกับอินเดีย ทำให้สถานการณ์โรคดังกล่าวในภูมิภาคนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนนัก

ทว่าจีนก็ได้ให้คำมั่นว่าจะเปิดเผยข้อมูลทันทีหากพบว่ามีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู หนังสือพิมพ์ของทางการจีนฉบับวานนี้ก็เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เปิดเผยข้อมูลให้มากขึ้น และหลีกเลี่ยงการปกปิดข้อมูลซึ่งเคยทำให้เกิดความแตกตื่นมาแล้วเมื่อครั้งที่โรคซาร์ส์แพร่ระบาด

ภาพท้องถนน โรงเรียน และร้านค้าที่ว่างเปล่า ในขณะที่ผู้คนต่างสวมหน้ากากอนามัยและมีสีหน้าวิตกกังวลซึ่งพบเห็นในเม็กซิโกขณะนี้ ก็เป็นภาพเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในจีนมาแล้วในปี 2003 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคซาร์ส์ระบาดอย่างหนักจนทำให้คนจีนและฮ่องกงเสียชีวิตไปหลายร้อยคน

"ผมแค่อยากให้ปลอดภัยไว้ก่อน" หนุ่มชาวฮ่องกงคนหนึ่งซื้อหน้ากากอนามัยขนาดสำหรับเด็กไปถึง 100 ชิ้นจากย่านวันไจ๋ ไปให้กับลูกสาววัย 9 ขวบของเขา

ที่สิงคโปร์ หน้ากากอนามัยอย่างดีที่ชื่อว่า "เอ็น 95" ก็ขายดีจนหมดสต๊อกเช่นกัน ร้านจำหน่ายในสนามบินชางงีบอกว่าสินค้าล็อตใหม่จะมาถึงอย่างเร็วก็สัปดาห์หน้า

"ของขายหมดเกลี้ยงเพราะผู้เดินทางที่จะไปยุโรปหรือสหรัฐฯ เตรียมป้องกันตัวเองจากไข้หวัดใหญ่หมู"

ส่วนนิวซีแลนด์ยังคงกักตัวครูและนักเรียนจำนวน 10 คนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในโอ๊คแลนด์ เพราะมีแนวโน้มว่าพวกเขาติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ดังกล่าว โดยล่าสุดวานนี้ มีการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อหวัดหมูแน่ๆ 3 คน

ขณะที่เวียดนามอาจยังมีความสับสนในเรื่องข้อมูลโรคไข้หวัดใหญ่หมูอยู่บ้าง มีประชาชนบางส่วนที่ระบุว่าจะเลิกบริโภคเนื้อหมูจนกว่าโรคจะหยุดแพร่ระบาด

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่หมูทำให้ชาวเม็กซิโกเสียชีวิตไปแล้ว 152 คน และองค์การอนามัยโลกก็มีทีท่าว่าจะประกาศว่าเป็นการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง (pandemic) ของไข้หวัดใหญ่ครั้งแรกในรอบ 40 ปีด้วย โดยการแพร่ระบาดระดับนี้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 1968 มีผู้เสียชีวิตไปถึงราว 1 ล้านคน ในขณะที่โรคซาร์ส์คร่าชีวิตผู้คนไป 299 รายในปี 2003
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเกาหลีใต้สุ่มตรวจผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินอินชอน ทางตะวันตกของกรุงโซล
เจ้าหน้าที่สนามบินในเม็กซิโกสวมหน้ากากอนามัย
กำลังโหลดความคิดเห็น