ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สาธารณสุขเชียงใหม่ ยืนยันมีมาตรการทางการแพทย์เข้ม พร้อมรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก ส่งทีมแพทย์และพยาบาลประจำสนามบินเชียงใหม่ตรวจผู้ต้องสงสัยที่ผ่านเครื่องเทอร์โมสแกน พร้อมจับตาใกล้ชิด 22 เม็กซิกัน ที่เข้ามาพำนักในเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.52
วันนี้ (28 เม.ย.) นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก ว่า ขณะนี้ยังไม่พบเชื้อสายพันธุ์นี้ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการป้องกันเฝ้าระวังทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับไว้แล้วอย่างเต็มที่ ทั้งการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด การจัดเตรียมหน่วยสืบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว หน่วยเฝ้าระวังโรคทั้งเชิงรุกและเชิงรับ รวมทั้งการทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งยืนยันว่า โรคนี้ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู
สำหรับในส่วนของมาตรการที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่นั้น ขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน เพื่อคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศแล้ว พร้อมทั้งมีการจัดทีมแพทย์และพยาบาลเข้าไปประจำอยู่ด้วย โดยหากพบผู้ต้องสงสัยจะทำการคัดแยกออกมาทำการซักประวัติ หากมีอาการไข้เพียงเล็กน้อยจะให้แจ้งที่อยู่สำหรับติดต่อไว้ เพื่อติดตามอาการ และหากมีอาการหนักก็จะทำการส่งตัวเข้าตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ที่ได้มีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว
ทั้งนี้ หากตรวพบว่าติดเชื้อจริงจะทำการแยกผู้ป่วยทำการรักษาในห้องที่จัดเตรียมไว้เฉพาะ ซึ่งได้มีการจัดเตรียมไว้ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ 7 ห้อง โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 8 ห้อง และโรงพยาบาลทุกแห่งๆ ละ 1 ห้อง
ขณะเดียวกัน ยังได้มีการเตรียมพร้อมห้องปฏิบัติการของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่ไว้สามารถตรวจทราบผลได้ภายใน 4-6 ชั่วโมง รวมทั้งมีเตรียมยาต้านไวรัสไว้อีก 700 ชุด และสำรองไว้อีก 1,000 ชุด โดยยาดังกล่าวนี้สามารถช่วยรักษาผู้ป่วยให้หายได้หากติดเชื้อไม่เกิน 48 ชั่วโมง ซึ่งด้วยมาตรการต่างๆ นี้ เชื่อว่า จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ บอกด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2552 เป็นต้นมา มีชาวเม็กซิโก ที่เดินทางเข้ามาและพำนักอยู่จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 22 คน ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการรวบรวมประวัติและข้อมูลเกี่ยวกับชาวเม็กซิโกจำนวนนี้ไว้แล้ว และจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยหากพบว่ามีอาการเจ็บป่วยหรือเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลใด จะเข้าทำการตรวจสอบทันที ทั้งนี้เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง เนื่องจากโรคนี้มีการระบาดในประเทศเม็กซิโกมาตั้งแต่เดือนมีนาคม แล้ว
วันนี้ (28 เม.ย.) นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก ว่า ขณะนี้ยังไม่พบเชื้อสายพันธุ์นี้ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการป้องกันเฝ้าระวังทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับไว้แล้วอย่างเต็มที่ ทั้งการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด การจัดเตรียมหน่วยสืบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว หน่วยเฝ้าระวังโรคทั้งเชิงรุกและเชิงรับ รวมทั้งการทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งยืนยันว่า โรคนี้ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู
สำหรับในส่วนของมาตรการที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่นั้น ขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน เพื่อคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศแล้ว พร้อมทั้งมีการจัดทีมแพทย์และพยาบาลเข้าไปประจำอยู่ด้วย โดยหากพบผู้ต้องสงสัยจะทำการคัดแยกออกมาทำการซักประวัติ หากมีอาการไข้เพียงเล็กน้อยจะให้แจ้งที่อยู่สำหรับติดต่อไว้ เพื่อติดตามอาการ และหากมีอาการหนักก็จะทำการส่งตัวเข้าตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ที่ได้มีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว
ทั้งนี้ หากตรวพบว่าติดเชื้อจริงจะทำการแยกผู้ป่วยทำการรักษาในห้องที่จัดเตรียมไว้เฉพาะ ซึ่งได้มีการจัดเตรียมไว้ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ 7 ห้อง โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 8 ห้อง และโรงพยาบาลทุกแห่งๆ ละ 1 ห้อง
ขณะเดียวกัน ยังได้มีการเตรียมพร้อมห้องปฏิบัติการของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่ไว้สามารถตรวจทราบผลได้ภายใน 4-6 ชั่วโมง รวมทั้งมีเตรียมยาต้านไวรัสไว้อีก 700 ชุด และสำรองไว้อีก 1,000 ชุด โดยยาดังกล่าวนี้สามารถช่วยรักษาผู้ป่วยให้หายได้หากติดเชื้อไม่เกิน 48 ชั่วโมง ซึ่งด้วยมาตรการต่างๆ นี้ เชื่อว่า จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ บอกด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2552 เป็นต้นมา มีชาวเม็กซิโก ที่เดินทางเข้ามาและพำนักอยู่จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 22 คน ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการรวบรวมประวัติและข้อมูลเกี่ยวกับชาวเม็กซิโกจำนวนนี้ไว้แล้ว และจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยหากพบว่ามีอาการเจ็บป่วยหรือเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลใด จะเข้าทำการตรวจสอบทันที ทั้งนี้เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง เนื่องจากโรคนี้มีการระบาดในประเทศเม็กซิโกมาตั้งแต่เดือนมีนาคม แล้ว
