เอเอฟพี - ผู้แทนสหภาพยุโรป เดินออกจากห้องประชุมต่อต้านการเหยียดผิวของสหประชาชาติเมื่อวันจันทร์(20) หลังประธานาธิบดีมะห์มูด อะห์มาดิเนจัด กล่าวสุนทรพจน์ต่อต้านอิสราเอลด้วยถ้อยคำรุนแรง
การประชุมที่ถูกบอยคอตต์จากสหรัฐฯและออสเตรเลีย รวมถึง อิสราเอลไปก่อนหน้านี้ ดำดิ่งสู่การโต้เถียงที่รุนแรงยิ่งขึ้นเมื่ออะห์มาดิเนจัด ก้าวขึ้นสู่เวที
ไม่นานหลังจาก อะห์มาดิเนจัด กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมในกรุงเจนีวา บรรดาตัวแทนจากสหภาพยุโรปได้ลุกออกจากห้องประชุมเพื่อประท้วงต่อความคิดเห็นของเขาบางส่วน
สำหรับ อะห์มาดิเนจัด เคยออกมาเรียกร้องให้ลบรัฐยิวออกจากแผนที่ วิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลว่าเป็นรัฐบาลเหยียดผิวต่อกรณีเหยียบย่ำปาเลสไตน์ใน1948 และเรียกอิสราเอลว่าเป็นระบบการปกครองที่อำมหิตและเหยียดผิวที่สุด
การกล่าวสุนทรพจน์ของผู้นำอิหร่าน ผู้ซึ่งบอกว่าการสังหารประชากรชาวยิวของนาซีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเรื่องที่กุขึ้น แม้ถูกบอยคอตต์จากชาติมหาอำนาจตะวันตก แต่ยังมีผู้แทนจากชาติอื่นๆบางส่วนปรบมือตอบรับคำพูดของเขาเช่นกัน
อะห์มาดิเนจัด ได้รับโอกาสขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ณ ที่ประชุมแห่งนี้ หลังเขาได้พูดคุยกับบันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ ประธานการประชุม ที่ได้แสดงความผิดหวังอย่างมากที่ชาติตะวันตกบางประเทศคว่ำบาตรการประชุมครั้งนี้ในภาวะที่การเหยียดเชื้อชาติสีผิวทุกรูปแบบยังคงดำรงอยู่
"บางประเทศ ซึ่งควรจะช่วยกันปูทางไปสู่อนาคตที่ดีกว่าไม่ได้อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้" บันกล่าว ส่วนที่นอกห้องประชุมก็เต็มไปด้วยกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองและกลุ่มที่ฝักใฝ่อุดมการณ์ที่ผรุสวาทใส่กันอย่างโกรธเกรี้ยว ซึ่งทั้งหมดนี้ควรจะมาร่วมกันหาทางออกในที่ประชุม
อย่างไรก็ตามแม้มีคำกล่าวเชิงตำหนิของบันออกมา แต่ผลกระทบทางการทูตก็แพร่กระจายออกไป โดยอิสราเอลได้เรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศเพื่อประท้วงการตัดสินใจให้อะห์มาดิเนจัดเข้าพบของประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์
โปแลนด์เป็นประเทศล่าสุดนอกเหนือจากสหรัฐ อิสราเอล แคนาดา ออสเตรเลีย เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ ที่คว่ำบาตรการประชุมครั้งนี้ ประเทศเหล่านี้หวั่นวิตกว่าการประชุมจะถูกลดคุณค่าลงให้เหลือเป็นเพียงเวทีให้คนออกมาแสดงทัศนะต่อต้านยิวเท่านั้น
ด้าน เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แสดงความชื่นชมต่อหลายประเทศที่ตัดสินใจคว่ำบาตรการประชุมที่เปรียบเสมือนเทศกาลแห่งความเกลียดชัง