xs
xsm
sm
md
lg

อุตฯรถยนต์สหรัฐฯดูมีความหวังมากขึ้น ยอดขายรถมี.ค.แม้ยังแย่แต่ก็ดีกว่าก.พ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โรงงานประกอบรถยนต์ของจีเอ็มในเมืองแคนซัส ซิตี้
เอเอฟพี - สถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณในเชิงบวกบ้างแล้วเมื่อวันพุธ(1) จากตัวเลขยอดขายเดือนมีนาคม ที่แม้จะลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน แต่ก็กระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจนจากตัวเลขของเดือนกุมภาพันธ์

รายงานยอดขายเหล่านี้บ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมนี้ซึ่งมีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แม้จะยังอ่อนแออยู่ แต่ก็เริ่มมีเสถียรภาพมั่นคงขึ้นแล้ว

จากข้อมูลที่รวบรวมโดยบริษัทวิจัยการตลาด ออโต้ดาต้า ในเดือนมีนาคม ผู้ผลิตขายรถยนต์ในสหรัฐฯได้ 857,735 คัน ซึ่งดิ่งลง 37% หากเทียบเดือนเดียวกันปีก่อน แต่ถ้าเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์จะเพิ่มขึ้น 24.5%

เมื่อคำนวณจากยอดขายต่อเดือนมาเป็นต่อปีจะอยู่ที่ 9.86 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจาก 9.12 ล้านคันของเดือนกุมภาพันธ์

"เราเริ่มจะเห็นสัญญาณแห่งชีวิตในยอดขายของเดือนมีนาคมบ้างแล้ว" เจสซี ทอปรัก นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมรถยนต์จากเอ็ดมุนด์สดอตคอม กล่าว

"นี่ยังไม่จำเป็นต้องหมายความตัวเลขของเดือนกุมภาพันธ์นั้นต่ำสุดแล้ว แต่การพุ่งขึ้นในเดือนมีนาคมก็แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์พื้นฐานต่าง ๆเริ่มจะดีขึ้น ทว่าเรายังคงต้องการให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้าก่อนที่จะบอกได้ว่าเราได้ลงถึงจุดต่ำสุดแล้วจริงๆ"

เมื่อตามไปดูผู้ผลิตรถยนต์แต่ละราย เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) แถลงเมื่อวันพุธว่ายอดขายเดือนมีนาคมในสหรัฐฯของบริษัทดิ่งลงไป 45% จากปีก่อน แต่ก็เหมือนกับผู้ขายรถรายอื่น ๆที่ยอดเดือนมีนาคมนั้นดีกว่าเดือนกุมภาพันธ์

จีเอ็มกล่าวว่าบริษัทขายรถยนต์ได้ 156,380 คันในเดือนมีนาคม ซึ่งน้อยกว่ายอดขายของเดือนมีนาคมปีที่แล้วมาก แต่ก็สูงกว่ายอดขาย 127,296 คันในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่บริษัทยังต้องพึ่งพาเงินกู้จากรัฐบาลเพื่อความอยู่รอดในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรงนี้

"ยอดขายของจีเอ็มและของทั้งอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการกระเตื้องขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมกับกุมภาพันธ์" มาร์ค ลาเนฟ รองประธานของบริษัทกล่าว "เราได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการของรัฐบาลกลางที่สร้างเสถียรภาพให้แก่อุตสาหกรรมนี้และกระตุ้นความต้องการรถยนต์ให้เกิดขึ้นด้วย

ส่วนไครสเลอร์ก็บอกว่ายอดขายในสหรัฐฯของบริษัทเพิ่มขึ้น 39% ในเดือนมีนาคมจากปีก่อนหน้า แต่ก็เป็นเดือนแรกนับตั้งแต่กันยายนปีที่แล้วเป็นต้นมาที่ยอดขายรถอยู่ในระดับเกิน 100,000 คัน

ไครสเลอร์ก็เหมือนกับจีเอ็มที่รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทล้มลงมา บริษัทบอกว่ายอดขาย 101,001 คันของเดือนมีนาคมทำให้เกิดความหวังว่าเริ่มมีความต้องการซื้อรถยนต์อีกครั้งหนึ่งในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้

ทางด้านฟอร์ด มอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์อเมริกันยักษ์ใหญ่เพียงรายเดียวที่ไม่ต้องแบมือขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล แถลงในทำนองเดียวกันว่า ยอดขายเดือนมีนาคมในสหรัฐฯ ทรุดลง 40.9% จากเดือนเดียวกันของปี 2008 แต่กระเตื้องขึ้น 30% จากเดือนกุมภาพันธ์

ส่วนยอดขายของคู่แข่งต่างประเทศอย่างโตโยต้านั้น ร่วงลง 36.6% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน แต่ก็เพิ่มจากยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 16.3%

โจเอล นารอฟฟ์จากนารอฟฟ์ อีโคโนมิค แอดไวเซอร์บอกว่าการกระเตื้องในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา จะเร่งความเร็วขึ้นอีกในช่วงไตรมาสสอง

เขาบอกอีกว่าเราอาจจะเห็นจีดีพีของสหรัฐฯกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง แม้ว่ายอดขายสินค้าต่าง ๆจะต่ำอยู่มาก ส่วนอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะใช้เวลาฟื้นตัวไม่ต่ำกว่าสองปี ซึ่งแรงจูงใจจากรัฐบาลและผู้ขายรถยนต์ที่ให้แก่ผู้ซื้อน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

นารอฟกล่าวอีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์นั้นมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯมาก ทั้งกับภาคอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ซึ่งยอดขายรถจะต้องกลับมาอยู่ในระดับ 14-15 ล้านคันต่อไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อวันจันทร์(30มี.ค.)ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ออกมาปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่จีเอ็มและไครสเลอร์ รวมทั้งยังให้เส้นตายใหม่แก่จีเอ็มเพื่อให้เขียนแผนฟื้นฟูมาใหม่ให้ดีกว่าเดิม

คณะทำงานด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ของทำเนียบขาวบอกว่าทั้งสองบริษัทนั้นไม่สามารถจะอยู่รอดได้เลยจากมุมมองในปัจจุบัน จีเอ็มนั้นต้องมีแผนปรับโครงสร้างที่ "รุนแรง" มากขึ้น ส่วนไครสเลอร์ก็ต้องการปิดการเจรจาทำพันธมิตรกับบริษัทรถยนต์เฟียตของอิตาลีให้ได้

ตอนนี้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ๆ ต่างกำลังออกมาตรการกระตุ้นยอดขายอย่างหนัก ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯก็ประกาศให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีแก่ผู้ซื้อรถ รวมทั้งกำลังพิจารณามาตรการให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าของรถที่เอารถเก่ามาแลกเป็นรถใหม่ที่มีระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น