อึ้ง!! มือปืนสังหารหมู่เยอรมนีบอกฆ่าเพื่อนนักเรียน “เพื่อความสนุก”

เอเอฟพี - หนุ่มรายหนึ่งซึ่งถูกมือปืนชาวเยอรมัน ทิม เครตช์เมอร์ จับเป็นตัวประกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดเผยเรื่องราวผ่านนิตยสารในวันพุธ (18) ระบุนักเรียนนักฆ่าบอกกับเขาว่าลงมือสังหารหมู่ “เพื่อความสนุก” และหวังไปก่อเหตุที่โรงเรียนอื่นต่อด้วย

อิกอร์ โวล์ฟ ซึ่งถูกมือสังหารวัย 17 ปี จี้หลังและบังคับให้ขับรถพาหลบหนีไปเป็นระยะทาง 40 กิโลเมตร ถามคนร้ายว่า “ทำไมคุณถึงทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้”

มือปืนตอบกลับว่า “เพราะมันสนุกดี เพราะว่าผมพบว่ามันสนุกไงล่ะ” หนึ่งในคำสัมภาษณ์ของ โวล์ฟ ที่ปรากฎอยู่ในนิตยสารเสติร์นฉบับวันพฤหัสบดี (19)

ระหว่างถูกจี้ให้ขับรถพาหลบหนี เครตช์เมอร์ ได้ถาม โวล์ฟ “คุณคิดว่าจะสามารถหาโรงเรียนอื่นได้อีกไหม?” ทั้งที่เขาเพิ่งลงมือสังหารเด็กหญิง 8 คน เด็กชาย 1 คน และครู 3 คน ณ โรงเรียนมัธยมอัลเบิร์ตวิลเล ในวินเนนเดน ทางตอนใต้ของเยอรมนี

ตอนนั้นพูดโดยที่ไม่ทราบจำนวนผู้เสียชีวิต เครตช์เมอร์ บอกกับคนขับว่า “ผมเพิ่งฆ่าคนไป 15 ศพที่โรงเรียนเก่า แต่วันนี้ผมยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจ”

คำทำนายที่เหมือนรู้ตัวล่วงหน้า ต่อมา เครตช์เมอร์ ได้ลั่นไกใส่ผู้สัญจรผ่านไปมาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีก 3 คน ก่อนหันปากกระบอกปืนปลิดชีพตัวเองหลังดวลปืนกับตำรวจ

หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง โวล์ฟ คิดถึงการหลบหนีออกมาแต่ก็กังวลว่า เครตช์เมอร์ อาจฆ่าคนมากไปกว่านี้

ณ เมืองหนึ่ง “เราหยุดที่แยกไฟแดง ผมคิดในใจว่าจะเปิดประตู พุ่งลงจากรถและวิ่งหนี แต่ตรงนั้นมีคนอื่นๆ ที่กำลังทำธุระของตนเอง ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเข็นรถเข็นเด็กรวมถึงยังมีเด็กคนอื่นๆ อยู่ละแวกนั้น คุณคิดว่าเขาจะทำอะไรหากว่าผมหนีออกมา”

โวล์ฟ เล่าต่อว่า ตัวเขากำลังจอดรถรอภรรยาบนถนนในตอนที่มือปืนเปิดประตูหลังรถโฟล์คสวาเกนของเขา พร้อมกับกระโดดขึ้นมาด้านหลังรถ ก่อนใช้ปืนเบเรตตา 9 มม.จี้ที่หน้าและตะคอกว่า “ขับไป เร็ว!”

ปฏิบัการขับรถตระเวนฆ่าคนสิ้นสุดลงเมื่อ โวล์ฟ เจตนาขับรถพุ่งชนรถคันหนึ่งและลงจากรถหลบหนีไปพร้อมกับกุญแจ ทำให้ เครตช์เมอร์ ต้องหลบหนีด้วยเท้า

หนึ่งสัปดาห์หลังเหตุสังหารหมู่ เมืองเล็กๆ อย่างวินเนนเดน ยังคงอยู่ในความโศกเศร้า ผู้รอดชีวิตจากเหตุนองเลือดร่วมยืนสงบนิ่ง 1 นาทีบริเวณด้านนอกโรงเรียนที่เต็มดอกไม้โปรยในช่วงเช้าวันพุธ (18) เพื่อระลึกถึงเพื่อนร่วมโรงเรียนผู้จากไป

ขณะเดียวกัน จะมีพิธีระลึกถึงผู้เสียชีวิตในวันเสาร์นี้ (2) โดยมี นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมราว 30,000 คน นอกจากนี้ นางแมร์เคิล ยังมีกำหนดเข้าเยี่ยมครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิตด้วย