ผู้นำฝ่ายค้านปากีฯ ฝ่าฝืนคำสั่งกักบริเวณ เรียกชุมนุมคนหน้าบ้านประท้วงรัฐบาล

เอเอฟพี - นาวาซ ชารีฟ ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของปากีสถานเรียกร้องประชาชนให้มารวมตัวกันที่หน้าบ้านของเขา ในกรุงลาฮอร์ วันนี้ (15) เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ที่กักบริเวณให้เขาอยู่แต่ในบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เขานำขบวนประท้วงเข้าเมืองหลวง ท่ามกลางวิกฤตการเมืองของประเทศที่นับวันยิ่งเลวร้ายลง

เขาแถลงผ่านทาโทรทัศน์ ถ่ายทอดสดกับประชาชนว่า “เราไม่ยอมรับการตัดสินใจนี้ การกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านนั้นผิดกฎหมาย และผิดศีลธรรม การตัดสินใจทั้งหมดนี้ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ”

นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้ผู้คนมารวมตัวกัน เพื่อร่วมเดินขบวนประท้วง “มาร่วมกับผม ผมกำลังจะออกจากบ้าน เวลาที่จะเดินขบวนจับมือกันมาถึงแล้ว พวกเขาไม่สามารถหยุดอารมณ์ของประชาชนได้ ประชาชนรอวันนี้มาเป็นเวลานานแล้ว”

ก่อนหน้านี้ อิจัซ อะห์เหม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ชารีฟถูกสั่งไม่ให้ออกจากบ้าน ในกรุงลาฮอร์ ทางตะวันออกของประเทศ เป็นเวลา 3 วัน โดยคำสั่งดังกล่าวยังรวมถึงผู้นำพรรคฝ่ายค้านคนอื่นๆ เช่น อิมราน คาน อดีตนักคริกเก็ตที่ผันตัวเองมาเป็นนักการเมือง และกอซี ฮุสเซน อะห์เหม็ด หัวหน้าพรรคจามัต อี อิสลามีด้วย

ขณะที่ผู้สื่อข่าว ที่อยู่ในเหตุการณ์รายงานว่า มีการเตรียมรถไว้นอกบ้านของชารีฟ เพื่อนำตัวเขาไปร่วมประท้วงกับนักกฎหมายทั้งหลาย ที่ศาลสูง ใจกลางเมืองลาฮอร์แล้ว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกกำลังล้อมบ้านของคาน และอะห์เหม็ด ในกรุงลาฮอร์ ทว่า เจ้าหน้าที่พรรคเผยว่า ผู้นำทั้งคู่หลบออกจากบ้านไปอย่างลับๆ และเดินทางมุ่งหน้าสู่กรุงอิสลามาบัดแล้ว

ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกห้ามลงเล่นการเมืองในเดือนที่ผ่านมา ประกาศในวันเสาร์ (14) ว่า เขาจะร่วมประท้วงกับนักกฎหมาย ที่ต้องการผลักดันให้ฟื้นอำนาจผู้พิพากษา ที่ถูกถอดไปตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ และตั้งใจจะนำขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาล จากเมืองลาฮอร์ ไปยังกรุงอิสลามาบัด ในวันนี้ (15)

ขณะที่ ราชา ซาฟาร์ อุล ฮัก ผู้ประสานงานประชุม และผู้นำอาวุโสพรรคมุสลิม ลีก นาวาซ ของชารีฟ ระบุว่า การกักตัวผู้นำฝ่ายค้านในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ และจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียด พร้อมกับชี้ว่า รัฐบาลต้องการก่อให้เกิดความรุนแรง และสร้างความวุ่นวายในประเทศ

ด้าน ประธานาธิบดีอาซิฟ อาลี ซอร์ดารี สามีม่ายของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงเบนาซีร์ บุตโต เคยให้สัญญาหลังชนะการเลือกตั้งในเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า เขาจะฟื้นอำนาจของผู้พิพากษา ภายใน 1 เดือน ทว่า จนถึงขณะนี้เขายังไม่ทำตามที่พูดไว้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ รัฐบาลวางโทษ ที่ร้ายแรงที่สุด ต่อผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองที่วางแผนเดินขบวนประท้วงมายังกรุงอิสลามาบัด เพื่อเรียกร้องการคืนอำนาจให้แก่ผู้พิพากษา ซึ่งมีนักเคลื่อนไหวกว่า 1,000 คนถูกควบคุมตัวแล้ว

มูชาร์ราฟสั่งย้ายอธิบดีศาลอิฟติการ์ มูฮัมหมัด เชาดรี และผู้พิพากษาอีกกว่า 60 คน ในปี 2007 เนื่องจากเกรงว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี ในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหาร โดยคำสั่งดังกล่าวส่งผลให้เกิดการประท้วงไปทั่วประเทศ และทำให้ในที่สุดมูชาร์ราฟต้องลาออกจากตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ปี 2008