เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันศุกร์(13) ขยับลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดกำลังเฝ้ารอผลการประชุมสำคัญจากทั้งโอเปกและจี20 ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50 จุด ตอบรับข่าวซีตี้กรุ๊ปเผยไม่จำเป็นต้องขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพิ่มเติมและเมิร์คแอนด์โค คลี่คลายความกังวลในการเข้าควบรวมกิจการกับบริษัทคู่แข่ง
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ร่วงลง 78 เซนต์ ปิดที่ 46.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนหน้าการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ที่กรุงเวียนนา อาทิตย์นี้(15) ขณะที่เบรนต์ของลอนดอน ร่วงลง 16 เซนต์ ปิดที่ 44.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การซื้อขายในวันศุกร์(13) ค่อนข้างผันผวน ผลสะท้อนจากข่าวลือที่มีอย่างผสมผสานต่อความคาดหมายว่าโอเปกจะลดกำลังผลิตเพิ่มเติมหรือไม่
นอกจากนี้ตลาดยังพุ่งเป้าให้ความสนใจไปที่การประชุมของจี 20 อันประกอบด้วยประเทศร่ำรวยที่สุดและประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์(14) ใกล้กรุงลอนดอน โดยมีเป้าหมายจัดการกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกและปฏิรูปกฎระเบียบทางการเงิน
"มีที่ประชุมสำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 2 แห่ง หนึ่งคือการหารือของกลุ่มโอเปกที่ความพยายามกำหนดเป้าหมายการผลิต และการประชุมรัฐมนตรีคลังจี 20 ในความพยายามดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจร่วมกัน แต่เราคาดหมายว่าการประชุมทั้ง 2 แห่งคงก่อผลได้ไม่มากไปกว่าผักชีโรยหน้าเท่านั้น" ไมค์ ฟิตซ์แพทริค จากเอ็มเอฟโกลบอลกล่าว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์(13) ยังคงปิดในแดนบวกต่อเนื่อง ทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน หลังได้ปัจจัยหนุนจากคำยืนยันของซิตี้กรุ๊ปที่ระบุว่าไม่ต้องการเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพิ่มเติม รวมถึงกรณีที่เมิร์กแอนด์โค บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ สัญญาว่าจะเข้าควบกิจการของแชริ่ง บริษัทคู่แข่งอย่างสุขุมรอบคอบ
ทั้งนี้ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารได้ดีดตัวถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากซีอีโอของธนาคารชั้นนำหลายแห่งชี้ว่าอุตสาหกรรมธนาคารกำลังมีเสถียรภาพ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 53.92 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,223.98 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.81 จุด (0.77 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 756.55 จุด ขณะที่ แนสแดค ปิดตลาด เพิ่มขึ้น 5.40 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,431.50 จุด