เอเจนซี/เอเอฟพี - ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ดิ่งเหวหลุดไปต่ำกว่า 7,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1997 จากปัจจัยความกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินหลังเอไอจี แจ้งผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายปีก่อนขาดทุนย่อยยับขณะที่บริษัทต้องรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอีกก้อน ซึ่งจากข้อวิตกดังกล่าวยังฉุดให้ราคาน้ำมันทรุดกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ปิดตลาดกลับมาแตะ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง
ความตกต่ำทางเศรษฐกิจที่กินเวลามานาน 14 เดือน และกำลังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถูกตอกย้ำโดยรายงานที่เปิดเผยออกมาว่าการใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างต่างๆ ในเดือนมกราคาที่ผ่านมา ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี
ด้วยภาวะเศรษฐกิจอันเศร้าโศกยังเขย่าตลาดการเงินโลก ทำให้คาดหมายว่าทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อาจลดประมาณการณ์เติบโตเศรษฐกิจโลกลงเข้าสู่ขอบเขตในแดนลบ
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายนเมื่อวันจันทร์ (2) ลดลง 4.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ของลอนดอน ลดลง 4.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันที่ตกลงมีขึ้นแม้ว่าผลสำรวจของรอยเตอร์พบกลุ่มโอเปกสามารถลดกำลังผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ได้ถึง 81 เปอร์เซ็นต์ จากข้อตกลงที่มีมติร่วมกันเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ขณะเดียวกันในเดือนกุมภาพันธ์ ยังนับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันแล้วที่โอเปกลดอุปทานในตลาดลง
“แม้ว่าโอเปก ทุกประเทศสมาชิกจะทำหน้าที่ได้ดีในการทำตามระดับที่กำหนดให้ แต่ดูเหมือนราคาที่ทรุดตัวลงจะได้แรงขับเคลื่อนจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจอันเสื่อมโทรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นในดาวโจนส์ (ดัชนีอุตสาหกรรม)” นูมันบารากัต รองประธานอาวุโสของแมคควอรีฟิวเจอร์สระบุ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวันจันทร์ (2) ด้วยดาวโจนส์ทรุดกว่า 300 จุด ร่วงลงไปต่ำกว่า 7,000 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1997 หลังอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงค์ (เอไอจี) ซึ่งแจ้งผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปี 2008 ปรากฏว่า ขาดทุนถึง 61,700 ล้านดอลลาร์ได้ขอรับความช่วยเหลือเพิ่มจากรัฐบาลสหรัฐฯอีก 30,000 ล้านดอลลาร์ เติมไฟแห่งความกลัวว่าวิกฤตทางการเงินโลกจะเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ร่วงลง 300.11 จุด (4.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,762.82 จุด แนสแดก ร่วงลง 54.99 จุด (3.99 เปอร์เซ็นต์)
ปิดที่ 1,322.85 จุด ส่วนเอสแอนด์พี ร่วงลง 34.28 จุด (4.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 700.81 จุด ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 1996
วิกฤตทางเศรษฐกิจได้กระตุ้นให้สมาชิกของโอเปกบางประเทศเรียกร้องให้ทางกลุ่มลดกำลังผลิตเพิ่มเติม ณ การประชุมหนหน้าในวันที่ 15 มีนาคม โดยนายคากิบ เคลิล รัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรีย แย้มว่าโอเปกจะลดกำลังผลิตอีกรอบ
อย่างไรก็ตาม นายกอห์ลัม ฮอสเซน โนซารี รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิหร่าน ระบุยังไม่ได้คาดหมายว่าจะมีข้อตกลงลดกำลังผลิตอีกครั้ง เพราะเห็นว่าการที่ทางกลุ่มลดกำลังผลิตได้ถึง 80 เปอร์เซนต์ตามพันธสัญญาที่ใช้อยู่เวลานี้ยังสามารถฉุดรั้งราคาน้ำมันที่ดิ่งลงได้
