เอเจนซี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการปรับปรุงกฏระเบียบควบคุมตลาดการเงินใหม่ทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าอเมริกาต้องการการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ภาวะล้มละลายทางการเงินเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
โอบามาเรียกประชุมเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมทั้งสมาชิกรัฐสภาทั้งจากเดโมแครตตและรีพันลิกัน ซึ่งบอกว่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลในการร่างกฎระเบียบใหม่เหล่านี้ในสองสามสัปดาห์ข้างหน้า โดยโอบามาก็ได้เน้นย้ำว่า "ประสบการณ์อันเจ็บปวด" แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องทำให้กฏระเบียบที่มีอยู่ มีความทันสมัยยิ่งขึ้น
เศรษฐกิจสหรัฐฯจะไม่สามารถจะก้าวไปได้ "หากว่าเราใช้กฎเกณฑ์ของศตวรรษที่ 20 มากำกับดูแลตลาดในศตวรรษที่ 21" เขากล่าวหลังจากหารือกับพวกสส.และ สว.ทั้งหลายแล้ว
"หากว่าเราสามารถที่จะชี้นำมือที่มองไม่เห็นของตลาด ด้วยหลักการที่สูงขึ้นกว่าเดิมแล้ว ตลาดของเราจะฟื้นตัว และเศรษฐกิจของเราจะเฟื่องฟูขึ้น อเมริกาจะกลับขึ้นมาเป็นผู้นำโลกอีกครั้งในศตวรรษใหม่นี้ เหมือนดังเช่นที่เคยเป็นมาในศตวรรษก่อน" เขากล่าว
ปรากฏว่าคำพูดของโอบามาคราวนี้ ได้สั่นคลอนนักลงทุนในตลาดหุ้น โดยพวกเขาผวาว่าจะมีการควบคุมการดำเนินงานในตลาดการลงทุนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้พวกเขามีโอกาสทำกำไรลดน้อยลง ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวันพุธโดยลดต่ำลง 1.09%
โอบามาซึ่งเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม อยู่ระหว่างการชั่งน้ำหนักทางเลือกต่างๆ เพื่อกำกับตรวจสอบภาคการเงินที่กำลังย่ำแย่ ภายหลังจากที่ในวันอังคาร(24) เขาเพิ่งขึ้นกล่าวปราศรัยต่อการประชุมร่วมของรัฐสภาเป็นหนแรก ซึ่งเขาได้ใช้โอกาสดังกล่าวนี้ที่มีการถ่ายทอดสดทางทีวีทั่วประเทศในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ เพื่อหาเสียงสนับสนุนจากประชาชนต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาของเขา
โอบามาและผู้นำชาติต่าง ๆในกลุ่มจี 20 กำหนดจะหารือกันในกรุงลอนดอนเดือนเมษายนนี้ เพื่อหาทางแก้ไขปรับปรุงระบบการเงินโลก และเขาต้องการส่งสัญญาณให้โลกรู้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่ดึงดันถ่วงความพยายามในการกำกับดูแลภาคการเงินนี้แม้แต่น้อย
จี20ประกอบด้วยสหรัฐฯ และประเทศสำคัญ ๆในยุโรป ตลอดจนประเทศที่มีเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา อย่างเช่นจีน กลุ่มประเทศนี้กำลังหาหนทางที่จะก่อรูปสร้างระบบระเบียบภาคการเงินระหว่างประเทศเสียใหม่ หลังจากที่ระบบเดิมนั้นใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว โดยที่ส่วนใหญ่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง จากการประชุมเบรตตัน วู้ดส์เมื่อปี 1944
ความผันผวนรุนแรงของระบบการเงินและการธนาคารโลกรอบนี้ มีต้นเหตุมาจากการล้มครืนของตลาดตราสารซับไพรม์ในสหรัฐฯ และเป็นเหตุให้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแผ่ออกไปทั่วโลก
ในตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญตลาดการเงินทั่วโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ควรต้องมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์กำกับดูแลสถาบันการเงินให้ทันสมัยมากขึ้นโดยเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนระเบียบโดยเร็วจะช่วยเยียวยาระบบการเงินที่แตกสลายลงไปได้ เพราะจะทำให้ผู้คนหันกลับมาศรัทธาอีกครั้งหนึ่ง แต่อีกหลายคนก็เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในช่วงวิกฤตอาจจะทำให้สถานการณ์ยุ่งยากมากขึ้น
โอบามานั้นเห็นว่าตลาดการเงินที่แข็งแกร่งนั้น ต้องการกฏระเบียบที่ชัดเจนซึ่งมิได้ต้องการที่จะถ่วงสถาบันการเงินมิให้ทำในสิ่งที่ต้องการ หากแต่เป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน และท้ายที่สุดแล้วก็จะทำให้สถาบันการเงินกลับมาแข็งแรงได้อีก
ชาร์ลส ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกจากมลรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผู้นำคนหนึ่งของพรรคเดโมแครตบอกว่ากระทรวงการคลังกำลังร่วมมือกับสส.และสว.ในการปรับปรุงระเบียบด้านการเงินใหม่หมด
เป้าหมายก็คือจะต้องให้กรอบของกฏหมายดังกล่าวเป็นรูปเป็นร่างภายในวันที่ 2 เมษายนอันเป็นช่วงที่โอบามาเดินทางไปร่วมประชุมจี 20
ชูเมอร์กล่าวว่าสหรัฐฯต้องการให้ผู้นำจี 20 ตระหนักว่าสหรัฐฯกำลังลงมือทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้ไปทางเดียวกับความพยายามของประเทศต่าง ๆในการปรับระเบียบโลกการเงินเสียใหม่
"ในโลกการเงิน หากว่าเราจะเดินหน้าไปในทิศทางที่แตกต่างจากยุโรปโดยสิ้นเชิง อาจจะทำให้สิ่งที่เราต้องการทำล้มเหลวก็ได้" ชูเมอร์กล่าว
ทางด้านวุฒิสมาชิกคริสโตเฟอร์ ดอดด์ ประธานของกรรมาธิการการธนาคารแห่งวุฒิสภาก็บอกว่า "ความตั้งใจของเราก็คือจะทำให้มันเสร็จในไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนข้างหน้า"
ในขณะเดียวกัน ทางสหภาพยุโรปเองก็กำลังเร่งให้เกิดการปฏิรูประเบียบภาคการเงินให้เร็วขึ้น
คณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรปเมื่อวันพุธได้เผยแพร่แนวทางการปฏิบัติต่างๆ สำหรับใช้กันทั่วทั้งอียู ในเรื่องการจัดการกับสินทรัพย์เน่าเสียในธนาคาร นอกจากนั้นยังมีรายงานฉบับหนึ่งซึ่งจะนำเสนอให้ผู้นำประเทศสมาชิกหารือและอภิปรายกันว่าการประสานงานกำกับดูแลสถาบันการเงินทั่วยุโรปควรจะทำอย่างไรบ้าง