xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าสูงเป็นประวัติการณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนงานกำลังขนตู้คอนเทนเนอร์ในท่าเรือที่กรุงโตเกียว
เอเอฟพี - ปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอยของญี่ปุ่นยิ่งสาหัสขึ้นไปอีก เมื่อปรากฏว่ายอดส่งออกลดฮวบรวดเร็วที่สุดในเดือนที่แล้ว จนทำให้เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของเอเชียแห่งนี้ขาดดุลการค้ารุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ตามตัวเลขของทางการที่นำออกเผยแพร่เมื่อวานนี้(25)

ในช่วงที่ผ่านมา ญี่ปุ่นพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจให้พึ่งพิงความต้องการสินค้าของต่างประเทศอย่างมาก ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ความต้องการสินค้าอย่างเช่น รถยนต์, โทรทัศน์และอื่น ๆก็หดตัวลงตามไปด้วย จึงทำให้แดนอาทิตย์อุทัยประสบปัญหาอย่างรุนแรง
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานวานนี้ว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ยอดขาดดุลการค้าของประเทศทะยานขึ้นแตะระดับ 952,600 ล้านเยน (9,900 ล้านดอลลาร์) โดยที่ยอดส่งออกดิ่งลง 45.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน นับเป็นเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดของเศรษฐกิจญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของญี่ปุ่น โดยที่ประเทศนี้ต้องอยู่ในสภาพขาดดุลการค้า หลังจากที่ได้เปรียบดุลมาเนิ่นนาน

เพียงไม่นานมานี้เอง ญี่ปุ่นยังถูกมองว่าเป็นประเทศที่จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากช่วงขาลงของเศรษฐกิจโลกมากนัก แต่ตอนนี้ญี่ปุ่นกลับกลายเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างเลวร้ายมากที่สุดประเทศหนึ่ง อันแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนของระบบเศรษฐกิจที่นำโดยการส่งออก ซึ่งกระเตื้องเฟื่องฟูขึ้นมาหลังจากช่วงชะลอตัวรุนแรงเมื่อทศวรรษ 1990

นักวิเคราะห์คาดว่าผลผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมประจำเดือนมกราคมที่จะรายงานออกมาในวันศุกร์(27) ก็จะดิ่งลงไป 10% จากเดือนก่อน ส่วนอัตราคนว่างงานก็ได้รับการคาดหมายว่าจะพุ่งขึ้น เพราะบริษัทสำคัญอย่างโซนี่, โตโยต้า กำลังทยอยปลดพนักงานหลายพันตำแหน่ง

นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังได้ชี้ด้วยว่าปัญหาที่เกิดจากจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งความลังเลของรัฐบาลที่จะรับเอาคนงานต่างชาติเข้ามาทดแทน ทำให้ญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหันไปพึ่งพิงตลาดต่างประเทศในการขายสินค้าของตน

เมื่อความต้องการสินค้าในต่างประเทศตกต่ำจากแรงดึงของวิกฤตเศรษฐกิจโลก จึงทำให้ญี่ปุ่นดิ่งลงสู่ภาวะถดถอยที่ร้ายแรงที่สุดรอบหลายทศวรรษอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ค่าเงินเยนที่แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักต่าง ๆ ก็ยิ่งซ้ำเติมผู้ส่งออกมากขึ้นอีก เพราะทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา อันเป็นปัจจัยหลักนั้นหมดไปโดยสิ้นเชิง

ยอดส่งออกรวมของญี่ปุ่นไปยังสหรัฐฯและสหภาพยุโรปลดฮวบลงครึ่งหนึ่งในเดือนมกราคม ส่วนยอดส่งออกรถยนต์ดิ่งลงไปมากกว่าสองในสามจนพวกผู้ผลิตจำเป็นต้องประกาศลดกำลังการผลิตกันเป็นแถว ๆเพื่อรับมือกับยอดขายที่ตกลง

มีนักวิเคราะห์น้อยคนนักที่จะบอกว่ายอดส่งออกของญี่ปุ่นจะดีดขึ้นในไม่ช้านี้

"ในความเห็นของผม เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะตกต่ำรุนแรง ดังนั้นการฟื้นตัวสำหรับสินค้าญี่ปุ่นในระยะสั้นจนถึงระยะกลางจึงเป็นไปได้น้อยมาก" เคอร์บี เดลีย์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนอาวุโสแห่งนิวเอดจ์ กรุ๊ปในฮ่องกงกล่าว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่งบอกว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา เพราะเศรษฐกิจในไตรมาสสี่หดตัวรุนแรง โดยหากคิดเทียบเป็นหนึ่งปีจะเท่ากับหดตัวถึง 12.7% เลยทีเดียว อันเป็นผลประกอบการของประเทศที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 35 ปี

อัตราการว่างงานในเดือนธันวาคมของญี่ปุ่นก็พุ่งขึ้นเกือบถึงระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยอยู่ที่ 4.4% และภายในปลายปีนี้น่าที่จะทยานขึ้นจนทะลุระดับ 5.5% ของช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง นักวิเคราะห์บางคนบอกว่าอาจเป็นไปได้ที่อัตราว่างงานของญี่ปุ่นในปีนี้ขึ้นไปถึงระดับ 10%
กำลังโหลดความคิดเห็น