xs
xsm
sm
md
lg

จนท.UN เตือน “หญิงมุสลิม” เผชิญวิกฤต ยังต้องประสบ “ความรุนแรง-ไม่เท่าเทียม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ผู้หญิงชาวมุสลิมทั่วโลกกำลังเผชิญ กับ “วิกฤตที่ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ” ขณะที่รัฐบาลของเหล่าประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามประสบความล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมเพื่อยุติความไม่เสมอภาคและความรุนแรงต่อพวกเธอ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเอ็นกล่าวเตือน

ยากิน เออร์เติร์ก ผู้นำเสนอรายงานต่อสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรื่องความรุนแรงต่อสตรีกล่าวในที่ประชุมนานาชาติ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า พวกผู้หญิงจะต้องเรียกร้องให้รัฐบาลของตนเองปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาต่างๆ ในการมอบสิทธิอันเท่าเทียมและรับประกันความปลอดภัยของพวกเธอ

“ไม่มีเวลาให้พูดพร่ำทำเพลงอีกแล้ว เพราะวิกฤตครั้งนี้กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ” เจ้าหน้าที่หญิงของยูเอ็นผู้นี้ บอกภายหลังขึ้นกล่าวสุนทรพจ์ต่อที่ประชุมนานาชาติเรื่อง “ความเท่าเทียมและความยุติธรรมในครอบครัวชาวมุสลิม”

“ผู้หญิงต้องเรียกร้องให้รัฐบาลของตนเองปฏิบัติตามข้อตกลงต่างๆ เรื่องสิทธิและความเสมอภาค ตลอดจนยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง ซึ่งแม้จะได้รับการลงนามแล้ว แต่กลับยังไม่เคยมีการปฏิบัติ” เออร์เติร์ก กล่าว

“ในประเทศมุสลิมเหล่านี้ พวกที่พูดในนามของศาสนาอิสลาม ยังคงเห็นเป็นเรื่องชอบธรรมในหลายๆ อย่าง เช่น การขว้างก้อนหินใส่หรือการสังหารผู้หญิงด้วยเหตุผลอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นส่วนหนึ่งศาสนาอิสลาม ฉันเคยได้ยินคำพูดเหล่านี้มาแล้วจากเจ้าหน้าที่แทบทุกระดับ” เออร์เติร์ก กล่าว โดยไม่ได้ตำหนิประเทศใดประเทศหนึ่งอย่างเฉพาะเจาะจง

“จริงอยู่ ความรุนแรงต่อสตรีไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในประเทศอิสลามเพียงเท่านั้น แต่ชาติมุสลิมถูกตราหน้าว่า เป็นสังคมของพวกเกลียดชังผู้หญิง ซึ่งต่อต้านผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไร”

เออร์เติร์ก บอกว่า บ่อยครั้งกฎหมายคุ้มครองสตรี ไม่ถูกนำมาบังคับใช้ หรือถูกทำให้อ่อนแอลง เนื่องจากแรงกดดันขององค์กรทางศาสนา

ทรรศนะเหล่านี้ของเออร์เติร์กได้รับการรับรองจากผู้แทนจากนานาชาติมากกว่า 200 คน ซึ่งเข้าร่วมการประชุม 4 วันของ “มูซาวาห์” กลุ่มเคลื่อนไหวสากลแห่งใหม่ ซึ่งรณรงค์เรื่องความยุติธรรมและความเสมอภาคในครอบครัวชาวมุสลิม

“พวกเธอไม่ได้เป็นชาวมุสลิมที่เลวทราม เมื่อลุกขึ้นมาเรียกร้องความเท่าเทียม, ความยุติธรรม หรือการเรียกร้องให้สามียุติการทุบตีพวกตน” ไซนะห์ อันวาร์ ผู้อำนวยการโครงการมูซาวาห์ กล่าว

“เราอยากบอกว่า คุณสามารถเป็นชาวมุสลิม, คุณสามารถเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิสตรี, คุณสามารถเรียกร้องสิทธิมนุษยชน ตลอดจนสิทธิ, ความเท่าเทียมและความยุติธรรมต่อสตรี ในขณะที่คุณยังเป็นชาวมุสลิมที่ดีคนหนึ่ง เราไม่เห็นว่าข้อเรียกร้องเหล่านี้จะขัดกับหลักการของศาสนาอิสลาม”

อย่างไรก็ตาม องค์กรทางศาสนาของมาเลเซียจำนวนมากต่างคัดค้านการประชุมนานาชาติในครั้งนี้

“การประชุมของมูซาวาห์ ครั้งนี้ ดูเหมือนจงใจจะตั้งคำถามต่อหลักการต่างๆ ของอิสลาม ... ซึ่งเห็นพ้องและผ่านความเห็นชอบจากสภานักการศาสนาผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว” วัน ซาลิม วัน โมห์ด นอร์ ผู้นำสมาคมอุละมาของมาเลเซีย กล่าวในคำแถลง

พร้อมกันนี้ เขายังเรียกร้องให้ชาวมุสลิมอย่าตกอยู่ใต้อิทธิพลของ “การโฆษณาชวนเชื่อจากองค์กรเสรีนิยมอิสลามเหล่านี้ และอย่าเข้ามาก้าวก่ายการเชื่อมั่นอะดีดะห์ (หลักศรัทธา) และหลักการต่างๆ ของอิสลาม”
กำลังโหลดความคิดเห็น