xs
xsm
sm
md
lg

สภาUSรุมซักฟอกCEOsวอลล์สตรีท อัดยับ"อเมริกาไม่เชื่อพวกคุณอีกแล้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โฉมหน้าผู้บริหารจากวอลล์สตรีท แถวบน (จากซ้ายไปขวา)โรเบิร์ต เคลลี จากแบงก์ออฟนิวยอร์ก,เจมี ไดมอน จาก เจพีมอร์แกนเชส,ลอยด์ แบลงค์ไฟน์ จาก โกลด์แมน แซคส์,จอห์น สตัมฟ์ จาก เวลลส์ ฟาร์โก แถวล่าง (จากซ้ายไปขวา)วิกรัม บัณฑิต จากซิตี้กรุ๊ป, จอห์น แมค จากมอร์แกน สแตนเลย์,เคน ลูวิส จากแบงก์ออฟอเมริกา และโรนัลด์ ลอก จากสเตรท สตรีท
เอเจนซี - บรรดาผู้บริหารธนาคารใหญ่ในวอลล์สตรีท ถูกซักฟอกอย่างหนักหน่วงในรัฐสภาสหรัฐฯ เรื่องการใช้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลมูลค่า 176,000 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาล เพราะยังไม่สามารถเห็นสัญญาณว่า สถานการณ์ในภาคการเงินการธนาคารมีการกระเตื้องดีขึ้นบ้างแล้ว

"อเมริกาไม่เชื่อพวกคุณอีกต่อไปแล้ว" ไมเคิล คาพัวโน ส.ส.เดโมแครตจากแมสซาชูเซตต์บอกผู้บริหารของทั้ง 8 ธนาคารใหญ่ ที่เข้ามาให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร เรื่องแผนการฟื้นฟูภาคการธนาคาร

ความรู้สึกของผู้แทนเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความโกรธแค้นของประชาชนชาวอเมริกัน ที่ต้องเสียสละภาษีของตน มาหนุนแผนฟื้นฟูภาคการเงินการธนาคารมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์ แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็ยังไม่ดีขึ้น จนรัฐต้องอัดฉีดเงินรอบใหม่เพื่อกระตุ้นการเติบโตอีกครั้ง

ผู้แทนเหล่านี้ต้องการทราบว่าธนาคารเอาเงินช่วยเหลือไปทำอะไร เพราะว่าจนบัดนี้ยังคงไม่มีสัญญาณของความผ่อนคลายในเรื่องสินเชื่อตึงตัว ไม่ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคการผลิตและบริโภคที่ต้องการเม็ดเงินอย่างยิ่ง ซึ่งความชะงักงันเช่นนี้ซ้ำเติมให้เศรษฐกิจอ่อนแลลงเรื่อย ๆ

เหล่าซีอีโอของธนาคารเหล่านี้ ก็สามารถรับรู้ถึงกระแสเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจเช่นนี้ได้

แต่พวกเขาก็โต้แย้งว่า ได้ใช้เงินภาษีของประชาชนที่ได้รับมาอย่างระมัดระวัง โดยนำไปให้กู้ยืมแก่ธุรกิจต่าง ๆ มิใช่จ่ายโบนัสให้แก่ผู้บริหาร ให้พวกล็อบบี้ยิสต์ หรือไปจ่ายเป็นเงินปันผลแต่อย่างใด

ธนาคารที่ให้กู้แก่ผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด 3 แห่งคือ ซิติกรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา และเจพีมอร์แกนแจงว่าพวกเขาได้ให้สินเชื่อใหม่ไปแล้ว 340,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสสี่ของปี 2008

ขณะนี้นอกจากนี้ผู้บริหารธนาคารสหรัฐฯแล้ว พวกผู้บริหารธนาคารของอังกฤษก็ตกที่นั่งลำบากเช่นเดียวกัน เพราะกำลังมีการไต่สวนถึงสาเหตุวิกฤตการเงินในอังกฤษ

ทางด้านรัฐบาลไอร์แลนด์ ก็กำลังต้องอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในธนาคารใหญ่ที่สุด 2 แห่ง เป็นมูลค่าถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้ธนาคารไปปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกต่อหนึ่ง

บรรดาซีอีโอทั้ง 8 ถูกสภาถามถึงรายได้ส่วนตัว และก็ได้คำตอบว่าเมื่อปีที่แล้วผู้บริหารเหล่านี้มีเงินได้ระหว่าง 600,000 - 1,500,000 ดอลลาร์ และมิได้รับโบนัส

7 ใน 8 ธนาคารรายงานว่าแบงก์ของตนมีเครื่องบินใช้ ซึ่งบางแห่งก็ซื้อ แต่บางแห่งก็เช่า จึงทำให้แบรด เชอร์แมน สส.เดโมแครตจากแคลิฟอร์เนีย รีบเรียกร้องให้ขายออกไปเสีย

สส.เกรกอรี มีคส์ เดโมแครตจากนิวยอร์ก ก็จี้ถามว่าชาวอเมริกันควรได้รับฟังคำขอโทษเรื่องที่ธนาคารไร้มาตรฐานในการกำกับดูแลสินเชื่อ จนทำให้เกิดภาวะฟองสบู่แตกในตลาดสินเชื่อหรือไม่ ปรากฏว่า จอห์น แม็ค ซีอีโอของมอร์แกน สแตนลีย์ตอบว่า "ผมคิดว่าภาคธนาคารทั้งหมดต้องรับผิดชอบ และผมก็ขอโทษในเรื่องนี้"

การให้ปากคำของบรรดาซีอีโอธนาคารเหล่านี้ บังเกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีคลัง ทิโมธี ไกธ์เนอร์ออกมาประกาศรายละเอียดแผนฟื้นฟูภาคการเงินรอบใหม่ แต่ไม่สามารถจะทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นได้ซึ่งส่งให้หุ้นสหรัฐฯในวันอังคารดิ่งเหวลงไปทันที

แต่เมื่อวันพุธ หุ้นธนาคารก็พุ่งขึ้นเพราะนักลงทุนพากันช้อนซื้อจากราคาของวันอังคารที่ร่วงลงไปถึง 14% รวมทั้งมีความหวังว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโอบามาที่ใกล้คลอดแล้วจะสามารถฉุดเศรษฐกิจให้กระเตื้องขึ้นได้

ระหว่างการให้ปากคำของ 8 ซีอีโอธนาคารใหญ่คราวนี้ ส.ส.หลายคนต่างแสดงความไม่พอใจออกมากับผู้บริหารธนาคารอย่างรุนแรง

คาพัวโนบอกว่า "คุณมาบอกว่าเสียใจ ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้มันเป็นแบบนี้ เราจะไม่ทำเช่นนี้อีก เชื่อเราอีกครั้งเถอะ โจรปล้นธนาคารในเขตเลือกตั้งของผมมันจะพูดแบบเดียวกันคุณนี่แหละ"

แต่ในที่สุด ความอดทนของนายธนาคารในการตอบคำซักฟอกคราวนี้ ก็ดูเหมือนจะหมดไป อย่างเช่น เคน ลิวอิส ซีอีโอของแบงก์ออฟอเมริกาตอบคำถามเกี่ยวกับระดับเงินทุนของแบงก์ออฟอเมริกาและความสามารถในการจ่ายหนี้คืนว่า "การที่คุณถามผมด้วยคำถามเช่นนี้เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากจริง ๆ"

ในขณะที่การให้ปากคำดำเนินไป ภายนอกอาคารก็มีผู้ประท้วงหลายสิบคนมาแสดงความไม่พอใจและตะโกนว่า "เฮ้ เคน ลิวอิสรู้แล้วยังว่าเราเจ็บปวดยังไง"

บาร์นีย์ แฟรงก์ สส.เดโมแครตซึ่งเป็นประธานกรรมาธิการบริการการเงินของสภาล่างบอกว่า พวกซีอีโอว่าพวกเขาต้องเข้าใจความโกรธ ความผิดหวังของคนอเมริกัน รวมทั้งให้ความร่วมมือกับรัฐสภาอย่างเต็มใจโดยไม่ "โกรธแค้น หรือทำน้อยเกินไป"

แต่แกรี่ แอคเคอร์แมนส สส.เดโมแครตจากนิวยอร์กบอกว่าในโลกแห่งความเป็นจริงตอนนี้ผู้คนไม่สามารถได้เงินกู้มาซื้อรถ ซื้อบ้าน หรือแม้แต่กู้เงินส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย

"สำหรับผมและหลาย ๆคนในที่นี้แล้วดูเหมือนว่าเงินจะยังลงไปไม่ถึงประชาชนทั่วไป ซึ่งก็เท่ากับคุณยังไม่ได้ให้สินเชื่อมากพอ"

ธนาคารใหญ่ทั้ง 8 ที่ซีอีโอของพวกเขามาให้ปากคำต่อสภาคราวนี้ได้แก่ แบงก์ออฟอเมริกา, แบงก์ออฟนิวยอร์กเมลลอน, ซิตี้กรุ๊ป, โกลด์แมนแซคส์, เจพีมอร์แกนเชส, มอร์แกนสแตนลีย์, สเตทสตรีท, และ เวลส์ฟาร์โก
กำลังโหลดความคิดเห็น