เอเอฟพี – นักบิน ซึ่งนำเครื่องบินโดยสารร่อนลงจอดฉุกเฉินกลางแม่น้ำฮัดสันได้อย่างปลอดภัย เผย บินไปเจอฝูงนกขนาดใหญ่เต็มหน้าต่างห้องนักบิน ทันทีที่นำเครื่องขึ้น
คิตตี ฮิกกินส์ คณะกรรมการด้านความปลอดภัยในการคมนาคมแห่งชาติ (เอ็นทีเอสบี) เผยว่า นักบินเชสลีย์ ซัลเลนเบอร์เกอร์ บอกกับเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า เขามองผ่านกระจกห้องนักบินเห็นนกสีน้ำตาลเข้มขนาดใหญ่เต็มไปหมด โดยสัญชาตญาณบอกให้เขาหลบ แต่เขาไม่ได้หลบ
ในขณะเดียวกัน นักบิน และผู้ช่วยนักบิน ได้ยินเสียงดัง และรู้สึกได้ถึงแรงปะทะ จากนั้นไฟก็ดับ พวกเขาได้กลิ่นอะไรบางอย่าง ซึ่งนักบินคนดังกล่าวระบุว่าเป็นกลิ่นนกถูกไฟไหม้
เจ้าหน้าที่ของเอ็นทีเอสบี สัมภาษณ์ซัลเลนเบอร์เกอร์ และผู้ช่วยนักบิน เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่เครื่องบินสายการบินยูเอสแอร์เวย์สไฟดับไม่นานหลังขึ้นจากสนามบินลาการ์เดีย และตกลงสู่แม่น้ำฮัดสัน ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี (15) ที่ผ่านมา
สำหรับหลักฐานที่เพิ่มขึ้นนั้นได้สนับสนุนความเชื่อที่ว่า นก หรือบางทีอาจเป็นห่าน ถูกดูดเข้าไปในใบพัดของเครื่องบิน และทำให้เครื่องยนต์เสียหาย
ไม่กี่วินาทีก่อนที่เครื่องจะดิ่งลงสู่แม่น้ำ ผู้ช่วยนักบิน ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการบินอยู่ในขณะนั้น สังเกตเห็นฝูงนกทางด้านขวา และแจ้งนักบิน ซึ่งเมื่อนักบินมองไปทางหน้าต่าง ก็เห็นนกเต็มไปหมด ฮิกกินส์กล่าวในการแถลงข่าว
ขณะที่เครื่องยนต์ทั้งสองเสียหาย นักบินก็ตัดสินใจว่าสถานที่เดียวที่เขาสามารถนำเครื่องลงจอดโยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ คือ แม่น้ำฮัดสัน และที่ตัดสินใจไม่กลับไปสนามบินลาการ์เดียก็เพราะเครื่องบินบินช้า และต่ำเกินไป ส่วนสนามบินทางเลือกอื่น ก็มีผู้คนอยู่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ฮิกกินส์ เสริมว่า จากนั้นซัลเลนเบอร์เกอร์ก็เป็นผู้ขับเครื่องบิน และพุ่งส่วนหัวเครื่องลงต่ำ เพื่อพยายามลดความเร็ว ขณะที่ผู้ช่วยนักบินก็พยายามสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ หลังจากนักบิน ซึ่งมีประสบการณ์ด้วยกันทั้งคู่ นำเครื่องลงจอดในน้ำได้สำเร็จโดยปลอดภัย ผู้โดยสาร และลูกเรือทั้งหมดบนเครื่อง 155 คน ก็สามารถเดินออกจากเครื่องบินลำดังกล่าวไปยังเรือช่วยชีวิตได้ทันที
นอกจากนี้ ซัลเลนเบอร์เกอร์ บอกกับเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า ในกระบวนการตามมาตรฐานการบิน เขาต้องนำเครื่องบินลงในบริเวณที่ใกล้กับเรือในแม่น้ำที่สุด เพื่อเข้าใกล้ความช่วยเหลือ ฮิกกินส์เสริม
