เอเอฟพี – รัฐมนตรีด้านพลังงานของอียูจะจัดการประชุมฉุกเฉิน หารือวิกฤตก๊าซระหว่างรัสเซีย และยูเครน เพื่อหาทางช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบในระยะสั้น และหายุทธศาสตร์ที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดวิกฤตนี้ซ้ำรอยในระยะยาว หลังข้อตกลงฟื้นการส่งก๊าซให้ยุโรปล้มเหลวในวันอาทิตย์ (11) ที่ผ่านมา
ประชากรหลายแสนคนต้องประสบภาวะขาดแคลนพลังงานในการทำความร้อน หลังจากรัสเซียเริ่มตัดการส่งก๊าซให้ยุโรปผ่านยูเครน เมื่อวันที่ 1 มกราคม เป็นต้นมา โดยชี้ว่ารัสเซียถูกบีบให้ทำเช่นนั้น เนื่องจากยูเครนขวางทางส่งก๊าซ ซึ่งเป็นข้อหาที่ทางยูเครนออกมาปฏิเสธ
เช็กในฐานะประธานหมุนเวียนของอียูได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการลดความเสี่ยง ที่จะเกิดภาวะวิกฤตก๊าซซ้ำรอย จึงได้เรียกประชุมรัฐมนตรีด้านพลังงานฉุกเฉินในวันจันทร์ (12) เพื่อหารือแก้ไขไม่เพียงแต่สถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ยังเร่งขั้นตอน และโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงานในยุโรปด้วย
ออสเตรีย เช็ก เยอรมนี และอิตาลี ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศในยุโรปตะวันออก ที่ได้รับผลกระทบ เช่นบัลแกเรีย สโลวะเกีย และประเทศในแหลมบอลข่านแล้ว
ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ข้อตกลง ซึ่งอียูเป็นตัวกลาง ที่จะให้รัสเซียฟื้นการส่งก๊าซให้ยุโรป เป็นอันต้องล่มลง เมื่อรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนแอบเปลี่ยนข้อตกลงดังกล่าว โดยประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟได้ประกาศผ่านทางโทรทัศน์ว่า ข้อตกลงที่ลงนามแล้วในวันเสาร์ (10) นั้นถือเป็นโมฆะ
ขณะที่รัฐบาลยูเครน ออกมาโต้ว่า ยูเครนไม่ได้ค้างชำระเงินค่าก๊าซ ที่ต้องจ่ายให้แก่บริษัทกาซปรอม ของรัสเซีย หลังจากกาซปรอมเรียกร้องให้ยูเครนชำระค่าก๊าซที่ติดค้างจำนวน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่บริษัทก๊าซของยูเครนกลับจ่ายให้เพียง 1,500 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาลักลอบใช้ก๊าซที่รัสเซียส่งไปให้ลูกค้าในยุโรป
ทั้งนี้ ยุโรปต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ที่ส่งผ่านยูเครนถึง 1 ใน 5 ของปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติทั้งหมด โดยข้อพิพาทระหว่างรัสเซีย และยูเครนทำให้อียูประสบกับวิกฤตด้านพลังงานครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่ง และยังเพิ่มปัญหาเร่งด่วนเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือในการส่งก๊าซของรัสเซียด้วย