เอเอฟพี – บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เพื่อเริ่มใช้ชีวิตใหม่ในฐานะผู้ประเทศอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่รายชื่อของคณะรัฐมนตรีของเขาต้องเผชิญกับความยุ่งยากครั้งใหญ่ครั้งแรก โดยบิล ริชาร์ดสัน ตัวเลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ประกาศถอนตัว เนื่องจากต้องถูกสอบสวนกรณีผลประโยชน์ทับซ้อนในรัฐนิวเม็กซิโก
บิล ริชาร์ดสัน ผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโก เผยว่า เขาขอถอนตัวจากหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ เนื่องจากการสอบสวนกรณีบริษัทการเงิน ที่ทำธุรกิจกับรัฐของเขา
การถอนตัวของริชาร์ดสันนั้นเกิดขึ้นหลังจากโอบามาออกเดินทางจากชิคาโกไปยังวอชิงตัน เพื่อร่วมกับครอบครัวของเขา และเริ่มนับถอยหลังครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคมนี้
หลังจากกระบวนการถ่ายโอนอำนาจที่เป็นไปอย่างราบรื่นได้รับการชื่นชมยกย่อง ถึงขณะนี้ โอบามาจำเป็นต้องเร่งหาผู้ดูแลแผนกอบกู้เศรษฐกิจจำนวนมหาศาลแทนริชาร์ดสันโดยด่วน ซึ่งทางพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสหวังว่ากฎหมายดังกล่าวจะผ่านภายในต้นเดือนหน้า
โอบามากล่าวทางวิทยุรายสัปดาห์ในวันเสาร์ (3) ที่ผ่านมาว่า แผนกู้เศรษฐกิจซึ่งมีมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์นี้ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันเศรษฐกิจตกต่ำลงไปอีก ขณะที่สหรัฐฯ ก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยไปแล้ว
ในแถลงการณ์ร่วม โอบามาเผยว่า เขายอมรับการถอนตัวของริชาร์ดสัน ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และระบุว่าเขาจะรีบหาผู้มาแทนโดยเร็ว ขณะที่เขาเตรียมตัวรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคมนี้ด้วย
ส่วนผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโก กล่าวว่า เขาขอให้โอบามาถอนชื่อเขาออกจากกระบวนการยืนยันในวุฒิสภาด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง แต่การสอบสวนกรณีที่บริษัทแห่งหนึ่งทำธุรกิจกับรัฐบาลรัฐนิวเม็กซิโกอาจยืดเยื้อออกไปอีกหลายสัปดาห์ หรืออาจเป็นเวลาหลายเดือนทีเดียว ทว่า เขาไม่ได้ระบุรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม
โอบามาเสริมว่า “มันเป็นการกระทำด้วยความตั้งใจของเขาที่ให้ประเทศชาติมาก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเขาได้ถอนตัวเองออกจากการเป็นผู้ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าใดๆ ในการเติมตำแหน่งทางเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้”
ทั้งนี้ คณะลูกขุนกลางในอัลบูเคอร์คี เมืองที่ใหญ่ที่สุดในนิวเม็กซิโก กำลังสอบสวนว่าบริษัทการเงินแคลิฟอร์เนีย ซึ่งบริจาคเงินในริชาร์ดสัน ได้ทำสัญญาเป็นที่ปรึกษาให้กับทางการนิวเม็กซิโกได้อย่างไร
ขณะที่ริชาร์ดสันยืนกรานว่าเขาไม่ได้ทำผิดอะไร และยังคงดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐต่อไป ในระหว่างการสอบสวนกรณีดังกล่าวนี้
