xs
xsm
sm
md
lg

ผลผลิตอุตฯญี่ปุ่นทรุดต่ำสุดเป็นสถิติใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นทรุดต่ำลงแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพราะโรงงานจำนวนมากพากันปิดตัวลง หรือไม่ก็ปลดพนักงานจากอุปสงค์ที่หดตัวอย่างมาก ในขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจกำลังลุกลามไปทั่วโลก ทั้งนี้ตามข้อมูลเศรษฐกิจที่รัฐบาลเผยแพร่ออกมาเมื่อวันศูกร์(26)

ทางการญี่ปุ่นยังรายงานข้อมูลอีกชิ้นหนึ่งที่ระบุว่า มีแรงงานอีก 100,000 รายต้องตกงานในเดือนที่แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และหากดูแนวโน้มแล้วในไม่ช้าก็จะมีแรงงานต้องตกงานมากขึ้นอีก เนื่องจากบริษัทต่างๆ กำลังทยอยปลดคนงานที่มีสัญญาว่าจ้างชั่วคราว

ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายนนั้น ร่วงลง 8.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการดิ่งลงครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม เริ่มรายงานสถิติดังกล่าวในปี 1953 และก็ย่ำแย่กว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 6.7% มากนัก

ทางด้านรัฐมนตรีเศรษฐกิจ คาโอรุ โยซาโนะ ได้ออกมาเตือนว่า ยังมองไม่เห็นเลยว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหลุดพ้นจากภาวะถดถอยเมื่อใด

"ภาครัฐ ภาคเอกชนและนักการเมือง จะต้องผนึกกำลังกันทำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจดิ่งเหวลงไปมากกว่าจุดต่ำสุดที่ควรจะเป็น" โยซาโนะกล่าว

ส่วนนายกรัฐมนตรีทาโร อาโสะก็ให้คำมั่นว่า จะกดดันรัฐสภาให้ผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2009/10 ที่รัฐบาลเพิ่งเสนอตอนกลางสัปดาห์นี้ โดยที่มียอดใช้จ่ายสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และบรรจุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก ทั้งการลดภาษี, การชดเชยภาษีเป็นตัวเงิน, และมาตรการอื่น ๆ

"ญี่ปุ่นควรจะเป็นประเทศแรกที่ฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย เราจะเป็นผู้นำในความพยายามฟื้นตัว" อาโสะกล่าวในระหว่างการประชุมของพรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี้ (แอลดีพี) ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลผสมชุดปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยังน่าจะลดลงต่อไปอีกอย่างต่อเนื่อง กระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่าในเดือนธันวาคม ตัวเลขนี้จะติดลบอีก 8.0% และลบ 2.1% ในเดือนมกราคม เพราะว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งเป็นเสาหลักหนึ่งกำลังย่ำแย่จากยอดสั่งซื้อทั่วโลกที่หดหายไป

พวกผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น อย่างเช่น โตโยต้า มอเตอร์, โซนี่ และแคนนอน ต่างพากันลดกำลังการผลิตและจำนวนพนักงานลง เพื่อปรับตัวในช่วงที่สามารถส่งออกได้ลดน้อยกว่าเดิมนี้

"เรากำลังได้เห็นข้อมูลเศรษฐกิจและการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจถูกปรับลดต่ำลงมาอยู่ทุก ๆ เดือน" ฮิโรชิ วาตานาเบ นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยไดวะกล่าว "นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมคาดว่าการส่งออกที่อ่อนแอลงจะทำให้มีการปรับระบบสินค้าคงคลังกันอย่างรุนแรง การส่งมอบสินค้ากำลังอ่อนแรง จึงเพิ่มปริมาณสินค้าคงคลัง แล้วเรื่องนี้ก็จะกลับมาส่งผลให้ต้องลดกำลังการผลิตลงไปอีก"

เศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้นต้องพึ่งพาการส่งออก ให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ปรากฏว่าในเดือนพฤศจิกายน การส่งสินค้าไปต่างประเทศได้ดิ่งลงรุนแรง

ทาเคชิ มินามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยโนรินชูกินกล่าวว่า ญี่ปุ่นต้องแบกรับปัญหาจากการที่ทั่วโลกกำลังมีความต้องการสินค้าลดลง

แม้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่นได้ออกประกาศลดอัตราดอกเบี้ยให้เหลือเพียง 0.1% มินามิก็เห็นว่าอาจจะยังจำเป็นต้องมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินให้มากขึ้นอีก

ทางด้านตลาดแรงงานนั้น กระทรวงมหาดไทยระบุในรายงานที่เผยแพร่วานนี้เช่นกันว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน ตัวเลขว่างงานพุ่งขึ้นมาอยู่ในอัตรา 3.9% หรือเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อน แม้ว่าจะต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ว่าน่าจะเป็น 4.0% แต่เชื่อกันว่าในไม่ช้าจำนวนการว่างงานจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อคิดเป็นจำนวนคนแล้ว ผู้ตกงานทั้งหมดในญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายนมีเท่ากับ 2.56 ล้านคน เพิ่มขึ้น 100,000 คนจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สัดส่วนของงานต่อผู้ที่หางานทำก็ลดลงมาเป็น 0.76 ซึ่งหมายความว่าในบรรดาคนหางานทำ 100 คนจะมีงานให้เพียง 76 ตำแหน่งเท่านั้น

ในเรื่องการปลดพนักงาน เวลานี้บริษัทต่าง ๆพุ่งเป้าหมายไปที่พวกพนักงานที่มีสัญญาว่าจ้างแบบจำกัดเวลา หรือคนที่รับมาจากสำนักจัดหางานที่มีการทำสัญญาชั่วคราว

กระทรวงแรงงานกล่าวว่า มีแรงงานชั่วคราวรวมทั้งสิ้น 85,012 คน ที่ได้ถูกลอยแพไปแล้ว หรือไม่ก็ได้รับแจ้งแล้วว่าจะถูกเลิกจ้างภายในเดือนมีนาคมปีหน้า ซึ่งเป็นเดือนสิ้นสุดของปีการเงิน 2008/09 ตัวเลขนี้เท่ากับว่าภายในเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว มีคนว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นเกือบสามเท่าตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น