เอเอฟพี - โตโยโต้ มอเตอร์ คอร์ป แถลงวันจันทร์ (22) คาดหมายว่า ปีนี้บริษัทจะต้องประสบภาวะขาดทุนจากการดำเนินงานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลต่อตลาดรถยนต์ของโลกอย่างรุนแรง
การที่โตโยต้าซึ่งเคยทำผลกำไรจากการดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องมานานปี ต้องออกมาลดการคาดหมายผลประกอบการในปีนี้ของตนลงอย่างแรงเช่นนี้ ถือเป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ของโลกกำลังจมถลำลงสู่วิกฤตอันร้ายแรงขึ้นทุกขณะ โดยที่ได้ทำเอาเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่ง และ ไครสเลอร์ บริษัทเล็กที่สุดในบรรดา “บิ๊กทรีแห่งดีทรอยต์” ของสหรัฐฯ เกือบต้องเผชิญกับภาวะล้มละลายอยู่แล้ว
โตโยต้าซึ่งกำลังแย่งชิงกับจีเอ็ม เพื่อครองบัลลังก์ผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก แถลงในคราวนี้ด้วยว่า กำลังลดการผลิตและการลงทุนลงมา เนื่องจากยอดขายที่ลดลงทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมทั้งค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับเงินสำคัญหลายๆ สกุล ทำให้เมื่อแปลงรายได้สกุลเงินอื่นๆ มาเป็นเยน เพื่อลงในบัญชี รายได้รวมของโตโยต้าก็ต้องหดหายไปมาก
“บริษัทกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลย ซึ่งทำให้ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการประกาศการขาดทุนจากการดำเนินงานในปีการเงินนี้” คัตสึอากิ วาทานาเบะ ประธานโตโยต้า กล่าวในการแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ โตโยต้าก็ออกมาประกาศลดคนงานไปแล้ว 3,000 ตำแหน่งในญี่ปุ่น และตอนนี้ก็จะต้องยกเลิกการเปิดโรงงานใหม่ในมลรัฐมิสซิสซิปปีของสหรัฐฯไปก่อน รวมทั้งลดกำลังการผลิตที่อินเดียด้วย
“บริษัทได้ตัดสินใจที่จะชะลอหรือทบทวนเกือบทุกโครงการที่มีเป้าหมายในการขยายกำลังการผลิต หรือสร้างโรงงานใหม่ออกไป” วาทานาเบะ กล่าว
โตโยต้า บอกว่า คาดหมายว่า ในปีการเงินนี้ (เม.ย.2008-มี.ค.2009) จะขาดทุนจากการดำเนินงานราว 150,000 ล้านเยน (1,690 ล้านดอลลาร์) นับเป็นการขาดทุนครั้งแรกตั้งแต่บริษัทเริ่มรายงานผลประกอบการประจำปีในเดือนมีนาคม 1941 เป็นต้นมา เปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่มีกำไรจากดำเนินงาน 2.27 ล้านล้านเยน
ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นแห่งนี้ บอกว่า ยังคงขาดหมายว่าในปีการเงินนี้จะสามารถทำกำไรสุทธิได้ แต่ก็คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลงไปอยู่ที่ 50,000 ล้านเยน จากก่อนหน้าที่คาดไว้ที่ 550,000 ล้านเยน
ความต้องการซื้อรถยนต์ที่ดิ่งเหวในสหรัฐฯจากการที่วิกฤตการเงินได้ฉุดลากเอาเศรษฐกิจโดยรวมลงให้ถดถอยลงไปด้วย และก็เป็นเหตุให้ทำเนียบขาวต้องออกมาประกาศให้เงินกู้ฉุกเฉินแก่ จีเอ็ม และ ไครสเลอร์ เพื่อให้ไม่ล้มครืนมาลงมา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การประกาศของโตโยต้าคราวนี้ แสดงให้เห็นว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกนั้นกระทบต่อตลาดรถยนต์ทุกแห่งอย่างรุนแรง ไม่ใช่แต่บรรดาบิ๊กทรีในดีทรอยท์เท่านั้นที่มีปัญหา
ยาสึอากิ อิวาโมโต ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์รถยนต์ของ โอคาซัง ซิเคียวริตีส์ ชี้ว่า มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นย่ำแย่อย่างหนัก เพราะว่าโตโยต้านั้น ก็เหมือนกับตัวแทนของญี่ปุ่น และไม่เพียงแต่โตโยต้าเท่านั้นผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายก็ต้องดิ้นรน เพื่อความอยู่รอดท่ามกลางภาวะตลาดที่ยากลำบากสุดแสน
ในปีนี้ โตโยต้า คาดว่า ยอดขายทั่วโลกจะอยู่ที่ 21.5 ล้านล้านเยน ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 23 ล้านล้านเยน บริษัทคาดว่าจะขายรถยนต์ได้ 8,960,000 คัน ในปีนี้ลดลงจากปีก่อน 4%
แต่วา ทานาเบะ กล่าวว่า เขาเชื่อว่าความต้องการรถในตลาดโลกจะฟื้นตัวในที่สุดโดยเฉพาะในเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ทั้งหลาย หลังจากที่วิกฤตการเงินได้รับการแก้ไขไปแล้ว และโตโยต้าก็จะกลับมาอยู่ในสถานะแข็งแกร่งดังเดิม
“เราจะสร้างความเข้มแข็งให้บริษัทเพื่อประกันว่าจะมีกำไร” เขากล่าว “เราจะพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งรถรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีขนาดเล็กลงแต่น่าตื่นเต้นกว่าเดิม”
ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกเช่นกันที่โตโยต้าไม่ประกาศคาดการณ์ยอดขายสำหรับปีการเงินหน้า วาทานาเบะ ให้เหตุผลว่าตลาดเปลี่ยนแปลงรวดเร็วในทุปสัปดาห์หรืออาจจะทุกวันเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น จึงไม่สามารถที่จะทำนายผลการดำเนินงานในปีหน้าได้ในตอนนี้
“การอ่านสภาพการณ์ตลาดโลกตอนนี้ยากอย่างสาหัส” เขากล่าว