อัลญะซีเราะห์ - สถานีโทรทัศน์ข่าวตะวันออกกลางเกาะติดความเคลื่อนไหวตลอดการประกอบพิธีฮัจญ์อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมทั่วโลก โดยปีนี้ยามัล อัลชัยยัล ผู้สื่อข่าวจากอัลญะซีเราะห์ พร้อมคณะ ออกเดินทางสู่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อร่วมพิธีฮัจญ์ และจัดทำรายงานพิเศษในรูปแบบไดอารีออนไลน์ซึ่งบันทึกเรื่องราวต่างๆ ตลอดการเดินทางแสวงบุญ
**ชาวมุสลิมทั่วโลกเริ่มประกอบพิธีฮัจญ์แล้ว**
**ไดอารีพิธีฮัจญ์ (1) : การเดินทางสู่นครมักกะฮ์**
วันที่ 2 ในนครมักกะฮ์
“อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร” (อัลเลาะห์ผู้ยิ่งใหญ่ อัลเลาะห์ผู้ยิ่งใหญ่) อัลชัยยัล ผู้สื่อข่าวจากอัลญะซีเราะห์ตื่นขึ้นตามเสียง “อะซาน”(เสียงร้องเรียกให้ชาวมุสลิมปฎิบัติละหมาด) ที่ดังแว่วมา
เขาออกจากโรงแรมตอนตี 5 เพื่อไปละหมาดที่ “มัสยิดฮะรอม” แม้จะเช้าตรู่ขนาดนั้น แต่ท้องถนนสายต่างๆ กลับล้นหลามด้วยคลื่นมหาชน ที่ก้าวเดินอย่างรีบเร่ง เพื่อเบียดเสียดเข้าไปจับจองพื้นที่ละหมาดในจุดที่ใกล้ “กะบะห์ หรือ บัยตุลลอห์” (สิ่งก่อสร้างรูปทรงลูกบาศก์ อันเป็นเสมือนเสาหลักของชุมทิศ) มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากนั้นทุกอย่างเริ่มเงียบสงัดลง มีเพียงเสียง “อิหม่าม” (ผู้นำการละหมาด) เท่านั้นที่ดังกึกก้อง ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุย, เสียงเครื่องยนต์ยานพาหนะ หรือเสียงอื่นๆ ดังเล็ดลอดออกมาเลย
**การรักษาความปลอดภัยขั้นสูง**
หลังอาหารเช้าทีมงานอัลญะซีเราะห์ ตัดสินใจไปถ่ายทำสารคดีที่กองกำลังความมั่นคงของซาอุดีอาระเบีย ในขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งเตรียมความพร้อมและการระแวดระวังภัยต่างๆ ก่อนถึงศาสนพิธีซึ่งชุมนุมมนุษยชาติจำนวนมากที่สุดในโลก
เจ้าชายนายิฟ บิน อับเดล อาซิซ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า เพียงนครมักกะฮ์แห่งเดียว เจ้าหน้าที่ความมั่นคงและความปลอดภัยด้านต่างๆ จำนวน 100,000 คน ถูกระดมมาประจำการ นับเป็นการระดมกำลังพลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ไล่ตั้งแต่กองกำลังพิเศษต่างๆ ที่ถูกระดมออกมาเพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะไม่เกิดข้อผิดพลาดด้านการรักษาความปลอดภัย ไปจนถึงหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่และนักดับเพลิงจำนวนอีกหลายพันคน เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ซาอุดีอาระเบียจะไม่ยอมให้หายนะภัยดังเช่นที่เกิดขึ้นในพิธีฮัจญ์ครั้งก่อนๆ อุบัติขึ้นซ้ำสองเป็นอันขาด
การชุมนุมมวลมนุษย์กว่า 3 ล้านชีวิต ภายในที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิต ดังนั้น จึงต้องชื่นชมความพยายามของทางการซาอุดีอาระเบียในปีนี้
**ความใกล้ชิดและสนิทสนม**
ชาวมุสลิม เชื่อว่า พิธีฮัจญ์สามารถชำระล้างบาปอย่างหมดจด เสมือนทารกที่เพิ่งคลอดจากท้องมารดา
นอกจากนั้นแล้ว พิธีฮัจญ์ยังมีความหมายย้ำเตือนชาวมุสลิม ว่า มนุษย์ทุกคนมีความความเท่าเทียมและเสมอภาคกัน แม้เราจะถูกแบ่งแยกทางเชื้อชาติ, ชนชั้น และสภาพแวดล้อมต่างๆ บนโลกปัจจุบันก็ตามที ชาวมุสลิม เชื่อว่า ทุกชีวิตจะพบกับพระผู้เป็นเจ้าในโลกหน้า
แม้จะเป็นวันที่ 2 ของการเดินทาง แต่ความคิดและสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ปรากฏขึ้นอย่างพรั่งพรูในนครมักกะฮ์