xs
xsm
sm
md
lg

UN จี้ทั่วโลกเร่งออกมาตรการกระตุ้น ศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ ระบุในรายงานที่นำออกเผยแพร่วันจันทร์ (1) นานาประเทศจะต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดมหึมา และประสานสอดคล้องกัน เพื่อต้านการดิ่งลงของเศรษฐกิจโลก

ในรายงานว่าด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และคาดการณ์ปี 2009 ซึ่งนำเสนอในการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการพัฒนาทางด้านการเงิน ณ นครโดฮา คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้มี “แพกเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยเชื่อมโยงกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วย”

มาตรการดังกล่าว “ควรมาพร้อมกับการกระตุ้นสภาพคล่องและการเพิ่มเงินทุนซึ่งหลายประเทศได้ดำเนินการไปแล้ว อันเป็นการตอบโต้ต่อวิกฤตเศรษฐกิจ”

นักเศรษฐศาสตร์ของยูเอ็น เสนอว่า “ระเบียบกฎเกณฑ์สำหรับตลาดการเงินและสถาบันทางการเงินอันเข้มงวดกว่าเดิม, การจัดหาสภาพคล่องระหว่างประเทศที่เพียงพอ, การปรับปรุงยกเครื่องระบบการสำรองเงินระหว่างประเทศ และระบบธรรมาภิบาลในภาคเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นหนทางป้องกันมิให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต”

รายงานยังได้ทำนายการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2009 ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีจะดิ่งลง และประเทศที่พัฒนาแล้วจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤตการเงินโลก ทั้งนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วจะประสบกับผลผลิตรวมลดลง 0.5% เทียบกับอัตราการเติบโต 5.3% สำหรับประเทศที่เศรษฐกิจอยู่ในหว่างการเปลี่ยนผ่าน และเติบโต 4.6% ของประเทศที่กำลังพัฒนา

ขณะที่อัตราการเติบโตของทั่วโลกจะอยู่ในระดับไม่เกินหนึ่งเปอร์เซนต์ในปี 2009 เทียบกับ 2.5% ในปี 2008 และอัตราการเติบโตระหว่าง 3.5-4% ของช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ อัตราการเติบโตของสหรัฐฯจะลดลง 1% ส่วนยูโรโซนจะติดลบ 0.7% ญี่ปุ่นลบ 0.3% ในขณะที่อัตราการเติบโตในอินเดีย บราซิล เม็กซิโก จะอยู่ที่ 7, 2.9 และ 0.7% ตามลำดับ

“แต่เนื่องจากสถานการณ์อันผันผวนในปัจจุบัน อนาคตอาจเลวร้ายมากกว่านี้” รายงานชี้

“หากว่าวิกฤตสินเชื่อยังคงดำเนินต่อไป และความเชื่อมั่นยังไม่กลับคืนมาในภาคการเงินในช่วงหลายเดือนข้างหน้า” ผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็น กล่าว “จะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนาหล่นลงมาเหลือ 2.7% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำอย่างร้ายแรงจนทำให้ประเทศเหล่านี้ไม่สามารถที่จะลดความยากจน และก่อความไม่มั่นคงทางสังคมและการเมืองขึ้น”

สหรัฐฯได้ประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์ ไปแล้ว ส่วนจีนก็ประกาศชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 590,000 ล้านดอลลาร์ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้เช่นกัน

“แต่ประเทศต่างๆ ก็ไม่สามารถที่จะฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้ มิไยว่าจะมีเงินมหาศาลถูกอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบและลดอัตราดอกเบี้ยลงมาเตี้ยต่ำปานใดก็ตาม โลกยังคงต้องการมาตรการทางการเงินต่าง ๆอีกมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว” รายงานชี้

รายงานของยูเอ็นยังได้ชี้อีกด้วยว่ารัฐบาลสหรัฐฯต้องใช้เม็ดเงินทั้งหมดราว 7 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อฟื้นฟูภาคการเงินที่ล้มละลาย ส่วนตัวเลขทั่วโลกน่าจะสูงถึง 11ล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

ร็อบ วอส ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนานโยบายและวิเคราะห์ของยูเอ็น และเป็นผู้เขียนหลักของรายงานนี้ กล่าวว่ามาตรการกระตุ้นทางการคลัง “ในปริมาณมหาศาล” เท่าๆ กัน ก็ควรจะต้องเกิดขึ้นด้วย หากว่าต้องการป้องกันมิให้เศรษฐกิจโลกหดตัวลงไปในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม วอส เห็นว่า มาตรการกระตุ้นต่างๆ อาจจะไม่ต้องใช้สูงถึง 7 ล้านล้าน หรือ 11 ล้านล้านดอลลาร์ก็ได้ “เนื่องจากการพูดตัวเลขเช่นนี้มักจะเป็นคำมั่นสัญญา มากกว่าเม็ดเงินที่จะใช้ไปจริงๆ” เขากล่าว “การกระตุ้นเศรษฐกิจราว 1 หรือ 2% ของจีดีพีโลกน่าจะเพียงพอที่จะป้องกันการเติบโตติดลบได้”

“หากว่ามีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาก็คาดว่า ในปี 2010 เศรษฐกิจจึงจะฟื้นตัว แต่คงไม่ใช่ในปี 2009 และตลาดต่าง ๆจะต้องไม่ร่วงลงอีกในเวลานี้ด้วย” วอส กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น