เอเอฟพี - ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงหลายคนในถิ่นทุรกันดารของประเทศปาปัวนิวกินี ยอมฆ่าลูกชายวัยทารกของตนเอง เพื่อหยุดยั้งการให้กำเนิดเด็กผู้ชาย ที่จะเติบโตขึ้นมาสืบทอดการสู้รบอันยาวนานระหว่างชนเผ่าต่างๆ สื่อท้องถิ่นรายงานวันนี้ (1)
สงครามการห้ำหั่นระหว่างชนเผ่า ซึ่งยืดเยื้อนานกว่า 20 ปีแล้ว ทอดทิ้งให้ผู้หญิงจำนวนมากที่หมู่บ้านกิมี ในเขตโอกาปา ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของปาปัวนิวกินี ต้องดิ้นรนเลี้ยงดูลูกหลานเพียงลำพัง ขณะที่บรรดาพวกผู้ชายต้องออกไปสู้รบ เดอะเนชั่นแนลรายงานวันนี้ (1)
โรนา ลูกี และ กิพีโยนา เบลาส หญิงชาวบ้าน 2 คน ยอมรับขณะเข้าร่วมงานสัมมนาอบรมการสร้างสันติภาพและความสมานฉันท์ที่โกโรกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เคยฆ่าลูกทารกของตนเอง
พวกเธอให้สัมภาษณ์เดอะเนชั่นแนล ว่า พวกผู้หญิงในหมู่บ้านของเธอตกลงจะไม่ให้กำเนิดเด็กชาย ด้วยความหวังเพียงว่า พวกเธอจะสามารถลดจำนวนผู้ชายในชนเผ่าจนถึงจุดที่พวกเขาต้องถอนตัวออกจากการสู้รบ
“ดังนั้น ชาวบ้านทุกคนจึงตกลงกันว่า จะฆ่าเด็กทารกเพศชาย เพราะพวกเธอมีผู้ชายมากเพียงพอแล้วที่ข้องเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างชนเผ่า และสร้างความลำบากให้พวกเธอ” สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างคำพูดของผู้หญิงหลายคน
หญิงชาวปาปัวฯ เหล่านี้ บอกไม่ได้ว่า พวกเธอสังหารทารกเพศชายจำนวนเท่าใดแล้ว ตลอดการสู้รบระหว่างชนเผ่า ลูกีบอกเพียงว่า แม่จำนวนมากยอมสูญเสียลูกชายของตนเองตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
“พวกเธอบอกว่า จำใจต้องทำเช่นนั้น เพราะเป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่พวกเธอซึ่งเป็นผู้หญิง พอจะทำได้ เพื่อยุติการสู้รบระหว่างชนเผ่า” เดอะเนชั่นแนลรายงาน
ปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea)อยู่ในแถบโอเชียเนีย โดยตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ทางเหนือของประเทศออสเตรเลีย และทางตะวันตกของหมู่เกาะโซโลมอน
ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างชนเผ่าต่างๆ ที่หมู่บ้านกินีปะทุขึ้นตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปิศาจร้าย