xs
xsm
sm
md
lg

"สื่อเทศ"อ้างสื่อไทยรุมด่าตำรวจยับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/ รอยเตอร์ - หลังจากติดตามรายงานข่าวอย่างใกล้ชิดในวันอังคาร (7) ระหว่างเหตุการณ์ตำรวจไทยปราบปรามการประท้วงของกลุ่มประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวานนี้ (8) เอเอฟพีและรอยเตอร์ 2 สำนักข่าวระดับโลก ได้นำเสนอข่าวที่อ้างจากรายงานของสื่อมวลชนไทยหลายสำนัก ซึ่งรุมประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเหตุจลาจลนองเลือด ซึ่งทำให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ราย และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน

เอเอฟพีรายงานว่า บางกอกโพสต์ หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษชี้ว่า กรุงเทพคืบคลานเข้าสู่ "ริมขอบอนาธิปไตย" พร้อมกับประณามว่า "เจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้วย่ำแย่ลงอีก"

"เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถแก้ตัวใด ๆ ทั้งนั้น ในการใช้ความรุนแรงเช่นนี้เข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่ชุมนุมอย่างสันติ" บางกอกโพสต์กล่าว ภายหลังตำรวจหลายพันคนระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล

เดอะเนชั่น หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษอีกฉบับ พาดหัวตัวสีแดงสดว่า "เลือดนองกรุงเทพ" พร้อมกับอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันอังคาร (6) ว่า เป็น "สงครามกลางเมืองขนาดย่อม" ก่อนจะทิ้งคำถามว่า "ขณะนี้กองทัพยืนอยู่ข้างใคร?"

รอยเตอร์รายงานอ้างบทบรรราธิการจากหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นที่กล่าวว่า "การใช้ความรุนแรงอย่างที่รัฐบาลทำ มีแต่จะทำให้วิกฤติการเมืองขณะนี้เลวร้ายลงกว่าเดิมเท่านั้น และหากนายกรัฐมนตรีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่สามารถรักษาสัญญาตามที่ให้ไว้ว่า จะ สร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมือง เขาก็สมควรลาออกจากตำแหน่ง"

สื่อต่างชาติรายงานต่อไปว่า หนังสือพิมพ์มติชนฉบับรายวันกล่าวในบทบรรณาธิการว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำลายชื่อเสียงของประเทศ

"ประชาชนจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้คนอื่น ๆ ทราบอย่างไร?" การนองเลือดครั้งนี้ ที่สร้างความอับอายไปแล้วทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า (เราคิด) ตื้น ๆ เพียงแค่ว่า ความรุนแรงเท่านั้นจะนำไปสู่การเจรจา มติชนกล่าวในบทบรรณาธิการ

ขณะที่หนังสือพิมพ์สายธุรกิจของไทยอย่างกรุงเทพธุรกิจเรียกร้องให้รัฐบาล รับผิดชอบต่อการใช้ความรุนแรงปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม

"การใช้กำลังสลายกลุ่มผู้ชุมนุมสมควรเป็นวิธีสุดท้ายที่จะนำมาใช้ ภายหลังจากการเจรจาล้มเหลว - - ทั้ง ๆ ที่จนถึงตอนนี้ การเจรจายังไม่ทันเกิดขึ้นด้วยซ้ำ" กรุงเทพธุรกิจกล่าว
“ส.เคเบิลทีวีไทย” ย้ำนโยบายปี 52 ยังหนุนแพร่ภาพ ASTV
“ส.เคเบิลทีวีไทย” ย้ำนโยบายปี 52 ยังหนุนแพร่ภาพ ASTV
ศูนย์ข่าวศรีราชา - อุปนายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เผยนโยบายสมาคมฯ ปี 2552 นอกจากจะเดินหน้ารวบรวมผู้ประกอบการเคเบิลทีวีที่มีอยู่ทั่วประเทศให้เข้าอยู่ในสมาคมฯ เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจหลังแนวโน้มการรุกใหญ่ของทุนส่วนกลางมีสูงแล้ว ยังคงยืนยันสนับสนุนการแพร่ภาพรายการผ่านดาวเทียมของสถานีโทรทัศน์ ASTV โดยเฉพาะช่อง NEWS 1 ที่ในวันนี้กลายเป็นสถานีโทรทัศน์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริงโดยพบว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกระแสความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับช่องข่าวเนชั่น ที่ในวันนี้มีความนิยมไม่แพ้กลุ่มฟรีทีวี
กำลังโหลดความคิดเห็น