เอเจนซี - กิจการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ตั้งฐานอยู่ในอังกฤษ มีไม่ถึง 10% ที่วางแผนจะลงนามรับรองจรรยาบรรณมาตรฐานการดำเนินงาน ซึ่งจัดทำโดยตัวแทนของอุตสาหกรรมแขนงนี้เอง ทั้งนี้ตามรายงานการสำรวจของ คิเนติก พาร์ตเนอร์ส บริษัทที่ปรึกษาของแวดวงเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งนำออกเผยแพร่วันจันทร์(17)
จากการสำรวจเฮดจ์ฟันด์จำนวนมากกว่า 100 กองทุน ซึ่งรวมกันแล้วเป็นผู้บริหารจัดการสินทรัพย์เกินกว่าครึ่งหนึ่งของกองทุนประเภทนี้ที่ดำเนินการอยู่ในอังกฤษ คิเนติก พาร์ตเนอร์ส ยังพบด้วยว่า เกือบหนึ่งในห้าระบุออกมาอย่างชัดเจนว่าพวกเขาจะไม่ทำตามมาตรฐานต่างๆ ที่กำหนดไว้ในจรรยาบรรณกองทุนเฮดจ์ฟันด์ดังกล่าว ขณะที่ราวสองในสามตอบว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ
จรรยาบรรณดังกล่าวนี้ จัดทำขึ้นโดย คณะทำงานของเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund Working Group) ที่ประกอบด้วยพวกผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ชั้นนำจำนวน 14 ราย และส่วนใหญ่ตั้งฐานดำเนินงานอยู่ในกรุงลอนดอน ต่อจากนั้น คณะกรรมการมาตรฐานของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund Standards Board หรือ HFSB) ซึ่งเป็นตัวแทนของพวกผู้จัดการกองทุนที่รวมกันแล้วเป็นผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ของเฮดจ์ฟันด์ในยุโรปประมาณครึ่งหนึ่ง ก็ได้ให้การรับรองเห็นชอบ
จรรยาบรรณสำหรับกองทุนเฮดจ์ฟันด์นี้ เน้นในเรื่องมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลและธรรมาภิบาล ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นความพยายามในการตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกที่ว่า อุตสาหกรรมแขนงนี้มีการปกปิดไม่โปร่งใส ตลอดจนเป็นการต้านทานความพยายามของทางการที่จะออกกฎวางกรอบมากำกับดูแล
เมื่อวันพฤหัสบดี(13)ที่ผ่านมา ผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดของสหรัฐฯบางราย อาทิ จอร์จ โซรอส และ ฟิลิป ฟัลโคน ได้ไปปรากฎตัวต่อสมาชิกรัฐสภาอเมริกัน และแสดงความเห็นด้วยที่ทางหน่วยงานกำกับตรวจสอบ ควรต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าที่เป็นอยู่อีกมาก เกี่ยวกับวิธีการทำมาหากินของเฮดจ์ฟันด์
คิเนติกระบุว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ส่วนใหญ่ที่ตนทำการสำรวจความเห็น ต่างให้ความสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อมาตรฐานต่างๆ ของเอชเอฟเอสบี ถึงแม้ไม่มีรายใดเลยที่บอกว่าได้รับการเรียกร้องจากนักลงทุนของตนให้นำเอาจรรยาบรรณนี้มาใช้ ตลอดจนมีน้อยกว่า 5% ซึ่งกล่าวว่าได้ลงนามรับรองจรรยาบรรณนี้ไปแล้ว
จูเลียน โคเรค สมาชิกคนหนึ่งของคิเนติก กล่าวเตือนว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่เฮดจ์ฟันด์จะต้องมีการออกกฎกำกับตรวจสอบกันเองอย่างทรงประสิทธิภาพและเหมาะสม ในเมื่ออุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดอย่างสาหัส โดยมีกองทุนที่ไปไม่ไหวต้องปิดตัวลงอยู่เรื่อยๆ มีนักลงทุนมาขอไถ่ถอน มีการชำระบัญชีเพื่อปิดกิจการ และมีการฟ้องร้องเป็นคดีความกันเพิ่มขึ้นทุกที แถมยังจะเจอแรงกดดันจากรัฐบาลต่างๆ ที่ต้องการเข้ามาออกกฎระเบียบควบคุมให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
เมื่อเดือนที่แล้ว อันโตนิโอ บอร์เจส ประธานของเอชเอฟเอสบี ก็พูดเอาไว้ว่า ในขณะที่กำลังเกิดวิกฤตสินเชื่ออย่างรุนแรงเช่นปัจจุบัน พวกหน่วยงานกำกับตรวจสอบภาคการเงินก็อาจมีความโน้มเอียงที่จะประกาศใช้กฎระเบียบที่จะสร้างความเสียหายให้แก่อุตสาหกรรมแขนงนี้
จากการสำรวจเฮดจ์ฟันด์จำนวนมากกว่า 100 กองทุน ซึ่งรวมกันแล้วเป็นผู้บริหารจัดการสินทรัพย์เกินกว่าครึ่งหนึ่งของกองทุนประเภทนี้ที่ดำเนินการอยู่ในอังกฤษ คิเนติก พาร์ตเนอร์ส ยังพบด้วยว่า เกือบหนึ่งในห้าระบุออกมาอย่างชัดเจนว่าพวกเขาจะไม่ทำตามมาตรฐานต่างๆ ที่กำหนดไว้ในจรรยาบรรณกองทุนเฮดจ์ฟันด์ดังกล่าว ขณะที่ราวสองในสามตอบว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ
จรรยาบรรณดังกล่าวนี้ จัดทำขึ้นโดย คณะทำงานของเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund Working Group) ที่ประกอบด้วยพวกผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ชั้นนำจำนวน 14 ราย และส่วนใหญ่ตั้งฐานดำเนินงานอยู่ในกรุงลอนดอน ต่อจากนั้น คณะกรรมการมาตรฐานของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund Standards Board หรือ HFSB) ซึ่งเป็นตัวแทนของพวกผู้จัดการกองทุนที่รวมกันแล้วเป็นผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ของเฮดจ์ฟันด์ในยุโรปประมาณครึ่งหนึ่ง ก็ได้ให้การรับรองเห็นชอบ
จรรยาบรรณสำหรับกองทุนเฮดจ์ฟันด์นี้ เน้นในเรื่องมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลและธรรมาภิบาล ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นความพยายามในการตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกที่ว่า อุตสาหกรรมแขนงนี้มีการปกปิดไม่โปร่งใส ตลอดจนเป็นการต้านทานความพยายามของทางการที่จะออกกฎวางกรอบมากำกับดูแล
เมื่อวันพฤหัสบดี(13)ที่ผ่านมา ผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดของสหรัฐฯบางราย อาทิ จอร์จ โซรอส และ ฟิลิป ฟัลโคน ได้ไปปรากฎตัวต่อสมาชิกรัฐสภาอเมริกัน และแสดงความเห็นด้วยที่ทางหน่วยงานกำกับตรวจสอบ ควรต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าที่เป็นอยู่อีกมาก เกี่ยวกับวิธีการทำมาหากินของเฮดจ์ฟันด์
คิเนติกระบุว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ส่วนใหญ่ที่ตนทำการสำรวจความเห็น ต่างให้ความสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อมาตรฐานต่างๆ ของเอชเอฟเอสบี ถึงแม้ไม่มีรายใดเลยที่บอกว่าได้รับการเรียกร้องจากนักลงทุนของตนให้นำเอาจรรยาบรรณนี้มาใช้ ตลอดจนมีน้อยกว่า 5% ซึ่งกล่าวว่าได้ลงนามรับรองจรรยาบรรณนี้ไปแล้ว
จูเลียน โคเรค สมาชิกคนหนึ่งของคิเนติก กล่าวเตือนว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่เฮดจ์ฟันด์จะต้องมีการออกกฎกำกับตรวจสอบกันเองอย่างทรงประสิทธิภาพและเหมาะสม ในเมื่ออุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดอย่างสาหัส โดยมีกองทุนที่ไปไม่ไหวต้องปิดตัวลงอยู่เรื่อยๆ มีนักลงทุนมาขอไถ่ถอน มีการชำระบัญชีเพื่อปิดกิจการ และมีการฟ้องร้องเป็นคดีความกันเพิ่มขึ้นทุกที แถมยังจะเจอแรงกดดันจากรัฐบาลต่างๆ ที่ต้องการเข้ามาออกกฎระเบียบควบคุมให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
เมื่อเดือนที่แล้ว อันโตนิโอ บอร์เจส ประธานของเอชเอฟเอสบี ก็พูดเอาไว้ว่า ในขณะที่กำลังเกิดวิกฤตสินเชื่ออย่างรุนแรงเช่นปัจจุบัน พวกหน่วยงานกำกับตรวจสอบภาคการเงินก็อาจมีความโน้มเอียงที่จะประกาศใช้กฎระเบียบที่จะสร้างความเสียหายให้แก่อุตสาหกรรมแขนงนี้