xs
xsm
sm
md
lg

ปากีสถาน“เพลี่ยงพล้ำ”ในพื้นที่ชนเผ่าของตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด

(จากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)

Pakistan torn over its tribal areas
By Syed Saleem Shahzad
14/11/2008

ดังเช่นที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ชนเผ่าเขตบาจาอูร์ เอเยนซี กองทหารปากีสถานซึ่งสู้รบกับพวกหัวรุนแรงในหุบเขาสวาท แคว้นพรมแดนตะวันตกเฉียงเหนือ ก็ตกอยู่ในสภาพที่กำลังพ่ายแพ้ พวกหัวรุนแรงยังกำลังหลั่งไหลเล็ดลอดเข้าไปในเมืองเปชาวาร์ เมืองหลวงของแคว้น โดยในสัปดาห์ผ่านมาได้เข้าลักพาตัวนักการทูตอิหร่านผู้หนึ่ง บรรดานายทหารใหญ่ของปากีสถานตระหนักเป็นอย่างดีว่า หากยังแข็งขืนยืนหยัดต่อไป ทหารของพวกเขาก็จะประสบความสูญเสียอันหฤโหดเมื่อต้องเผชิญกับฤดูหนาวที่ยาวนานและแสนลำบาก ทว่าการยอมถอนตัวออกมาก็เป็นเรื่องยากที่จะกล้ำกลืนพอๆ กัน

การาจี – จากการที่หิมะฤดูหนาวกำลังย่างกรายเข้ามาอย่างรวดเร็วยิ่ง กองกำลังรักษาความมั่นคงของปากีสถานจึงต้องรีบตัดสินใจแบบแข่งกับเวลา ในประเด็นที่ว่าจะถอนตัวออกจากหุบเขตสวาท ในแคว้นพรมแดนตะวันตกเฉียงเหนือ (North-West Frontier Province หรือ NWFP) หรือไม่ หลังจากที่ได้ไปสู้รบกับพวกหัวรุนแรงตลอดหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา โดยที่กำลังตกอยู่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ

พวกหัวรุนแรงสามารถครอบครองพื้นที่ถึงราว 80% ของอาณาบริเวณอันทรงความสำคัญยิ่งทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ ซึ่งตั้งประชิดพรมแดนติดต่อกับอัฟกานิสถาน และกำลังพยายามอย่างประสบความสำเร็จในการตัดเส้นทางลำเลียงส่วนใหญ่ของฝ่ายรัฐบาล กองบัญชาการทหารปากีสถานในนครราวัลปินดีตระหนักดีว่า หากไม่ถอนทหารกว่า 10,000 คนซึ่งอยู่ที่นั่น พวกเขาก็จะต้องเผชิญกับสภาพอันหฤโหดที่จะสูญเสียกำลังพลไปเรื่อยๆ แต่ถ้าพวกเขาถอนตัวถอยออกมา พวกหัวรุนแรงก็จะเติบใหญ่แข็งแกร่งขึ้นอีกมาก

คาบัล และ คันจู กลายเป็นสนามรบที่ยังเหลืออยู่ในหุบเขาแห่งนี้ โดยที่มีการสู้รบอันดุเดือดและฝ่ายทหารสามารถควบคุมพื้นที่เหล่านี้ได้บางส่วน ทว่าเมื่อฤดูหนาวมาถึง เส้นทางลำเลียงต่างๆ ของกองทัพก็จะตกอยู่ในอันตรายเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ทางพวกหัวรุนแรงนั้นยังคงสามารถประคับประคองตัวเองต่อไปได้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากได้อาศัยข้าวของสัมภาระจากรถบรรทุกและตู้คอนเทนเนอร์ทหารจำนวนมากพอดูที่พวกเขายึดเอามาได้

การที่กองทัพรู้สึกอิหลักอิเหลื่อสองจิตสองใจ ก็เพราะหากยอมถอยทัพโดยอาศัยข้ออ้างทำข้อตกลงสงบศึกอะไรสักอันหนึ่ง ย่อมเป็นการเปิดทางให้พวกตอลิบานเสริมปรับที่มั่นต่างๆ ของพวกเขาให้แข็งแรงยิ่งขึ้นอีก และเพิ่มความพรักพร้อมสำหรับการเปิดโจมตีในอัฟกานิสถานครั้งต่อไปในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เรื่องที่คาดการณ์ได้ก็คือว่า ตอลิบานจะต้องสามารถระดมพลพรรคใหม่ๆ เข้ามาอย่างมากมายชนิดไม่เคยปรากฏมาก่อนทีเดียว

ดังที่กำลังเกิดขึ้นในเขตบาจาอูร์ เอเยนซี กองทัพปากีสถานก็ประสบความล้มเหลวเช่นกันในการศึกที่หุบเขาสวาท เนื่องจากทหารที่สู้รบในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวชนเผ่าปาชตุน เฉกเช่นเดียวกับผู้คนที่พวกเขากำลังรบราฆ่าฟันอยู่ ผลที่ปรากฏออกมาจึงกลายเป็นว่า ต้องพึ่งพาอาศัยแสนยานุภาพทางอากาศมากเหลือเกิน ทว่ามันก็เพียงแค่สามารถผลักดันพวกหัวรุนแรงให้ถอนกำลังชั่วคราวเข้าไปอยู่ตามพื้นที่เทือกเขาหรือเข้าไปในดินแดนของอัฟกานิสถาน

ครั้นเมื่อพวกหัวรุนแรงถอยทัพ ฝ่ายทหารก็กลับไม่สามารถเข้าควบคุมสั่งการในพื้นที่ที่ถูกทิ้งเอาไว้ เนื่องจากเกรงกลัวว่าจะถูกโจมตีในลักษณะกองจรยุทธ์ ไม่ช้าไม่นานพวกหัวรุนแรงก็สามารถกลับเข้ามาใหม่ เกมเล่นซ่อนหาเช่นนี้ได้ทำให้พวกหัวรุนแรงกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบในพื้นที่แคว้น NWFP อีกทั้งกลายเป็นเชื้อเพลิงอันสำคัญที่ช่วยโหมกระพือการต่อสู้ก่อความไม่สงบที่นำโดยตอลิบานในอัฟกานิสถานไปด้วย

หลังจากล้มเหลวไม่สามารถยึดที่มั่นสร้างหัวหาดขึ้นในบาจาอูร์ กองทัพปากีสถานก็ได้บุกเข้าไปในเขตโมฮาหมัด เอเยนซี ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับบาจาอูร์ และสังกัดอยู่ใน ดินแดนชนเผ่าที่บริหารโดยรัฐบาลกลาง (Federally Administered Tribal Areas) เหมือนๆ กัน สืบเนื่องจากเขตโมฮาหมัด เอเยนซีนี่เอง ที่เป็นแหล่งลำเลียงขนส่งพวกนักรบสดใหม่ตลอดจนข้าวของสัมภาระไปช่วยเหลือพวกตอลิบานในเขตบาจาอูร์

แต่นี่คือการเปิดแนวรบใหม่ที่เป็นการสู้รบกับผู้บัญชาการกองกำลังท้องถิ่นที่ทรงอำนาจอย่าง อับดุล วาลี และมันก็ก่อให้เกิดผลกระทบอันรุนแรงอย่างต่อเนื่องเป็นชั้นๆ ประชากรจำนวนมากทีเดียวพากันอพยพหลบหนีไปอยู่ที่เมืองเปชาวาร์ เมืองหลวงของแคว้น NWFP ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ตลอดจนสถานที่อื่นๆ ทำให้พวกตอลิบานสามารถเปิดแนวรบขึ้นที่เมือง ซับกาดาร์ และ มิชินี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายขอบตอนเหนือของเมืองเปชาวาร์

ระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา ตอลิบานยังได้แทรกซึมเข้าสู่เปชาวาร์ พวกเขาได้สังหารพนักงานผู้หนึ่งขององค์การยูเสด อันเป็นหน่วยงานให้ความช่วยเหลือการพัฒนาในต่างประเทศของรัฐบาลอเมริกัน นอกจากนั้น พวกเขายังลักพาตัวนักการทูตอิหร่านไปคนหนึ่ง

ในไคเบอร์ เอเยนซี อันเป็นอีกเขตหนึ่งของ “ดินแดนชนเผ่าที่บริหารโดยรัฐบาลกลาง” เครื่องบินไร้คนขับแบบ “เพรดาเตอร์” ของสหรัฐฯหลายลำ ได้ถูกส่งเข้ามาโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในพื้นที่หุบเขาเทรา ทว่าล้มเหลวไม่สามารถทำลายเป้าหมายสำคัญๆ ใดๆ ได้

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ก็ได้ทำให้พวกหัวรุนแรงกลุ่มซึ่งเมื่อก่อนฝักใฝ่รัฐบาลและต่อต้านอัลกออิดะห์ โดยสังกัดอยู่ในองค์การ “ความเลวและความดี” ของ ฮะจี นัมดาร์ ผู้ถูกสังหารโหด ตกลงใจหันไปร่วมมือกับพวกตอลิบานท้องถิ่น เพื่อสู้รบกับพวกกองทหารต่างชาติในอัฟกานิสถาน

เครื่องบินไร้คนขับได้ถูกส่งออกปฏิบัติการโจมตีตอนสิ้นเดือนตุลาคม และหลังจากนั้นขบวนลำเลียงสัมภาระขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ก็ถูกปล้นชิงบ่อยครั้งขึ้น พวกหนังสือพิมพ์ของปากีสถานต่างตีพิมพ์ภาพกลุ่มหัวรุนแรง ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่รอบๆ ยานสายพานลำเลียงพลหุ้มเกราะคันหนึ่งของนาโต้

พันธมิตรใหม่ที่เกิดขึ้นมานี้ จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่การปฏิบัติการสู้รบของพวกหัวรุนแรงในจังหวัดนานการ์ฮาร์ ของอัฟกานิสถาน ซึ่งอยู่ในสภาพเงียบสงบตลอดเวลาหลายๆ เดือนที่ผ่านมา ในวันพฤหัสบดี(13) พวกตอลิบานได้เข้าโจมตีขบวนลำเลียงของนาโต้ในพื้นที่จังหวัดนานการ์ฮาร์ ใกล้ๆ เมืองจาลาลาบัด นาโต้แถลงว่าทหารอัฟกันจำนวนมากถูกสังหาร ขณะที่พวกตอลิบานอ้างว่าสามารถสังหารทหารนาโต้ได้ 5 คน

ฤดูหนาวปีนี้จึงทำท่าจะกลายเป็นฤดูหนาวอันแสนยาวนานสำหรับกองทัพปากีสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะยังปักหลักอยู่ในพื้นที่ชนเผ่าเหล่านี้ต่อไป หรือตัดสินใจถอยกลับออกมา ขณะเดียวกัน ฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง ก็น่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ร้อนแรงที่สุดของอัฟกานิสถานทีเดียว

ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด เป็นหัวหน้าสำนักงานปากีสถานของเอเชียไทมส์ออนไลน์ สามารถที่จะติดต่อกับเขาได้ทางอีเมล์ saleem_sharzad2002@yahoo.com
กำลังโหลดความคิดเห็น