xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ”จำใจเล่น“ซ่อนหา”

เผยแพร่:   โดย: ลาร์รี จาแกน

(จากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)

Hide and seek for Thailand’s Thaksin
By Larry Jagan
11/11/2008

อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ผู้กำลังหลบหนีเงื้อมมือกฎหมายไทย เวลานี้(11ก.ย.)ซุกซ่อนตัวอยู่ในปักกิ่ง ที่ซึ่งเขามีมิตรไมตรีกับรัฐบาล อีกทั้งมีข่าวลือว่าเขาไปสร้างคฤหาสน์มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯไว้ที่นั่น พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ถึงกับตกอยู่ในสภาพต้องเดินฟันฝ่าเส้นทางหุบเหวมรณะหรอก แต่ด้วยการที่สหราชอาณาจักรถอนวีซ่าไม่ให้เขาเข้าประเทศ โลกอันอิสรเสรีสำหรับเขาก็กำลังหดแคบลงมา ในยามที่เขาต้องพยายามวิ่งไปข้างหน้าเพื่อให้ไกลห่างโทษจำคุก 2 ปีที่เขาถูกศาลพิพากษาตัดสินแล้วในบ้านเกิดเมืองนอนของเขาเอง

กรุงเทพฯ – โลกกำลังหดแคบลงสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ของไทย ขณะที่เขากำลังเที่ยวหาที่พักพิงแห่งใหม่เพื่อการหลบหนีลี้ภัย หลังจากถูกสั่งห้ามเข้าประเทศสหราชอาณาจักรเมื่อเร็วๆ นี้ และจากการที่สถานการณ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้กำลังอยู่ในภาวะจนตรอกยิ่งขึ้นเรื่อยๆ บางคนจึงหวาดกลัวว่ามันอาจจะจุดชนวนให้เกิดความรุนแรงรอบใหม่ระหว่างมวลชนผู้สนับสนุนและผู้กล่าวโทษโจมตีเขาในเมืองหลวงของประเทศไทย

รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ดำเนินการเพิกถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ผู้ภริยา ไปเมื่อเร็วๆ นี้ จึงทำให้พวกเขาไม่สามารถกลับเข้าไปยังประเทศนั้น ซึ่งพวกเขาได้พำนักอาศัยในลักษณะเนรเทศตัวเองเรื่อยมา นับแต่หลบหนีเงื้อมมือกฎหมายไทยในเดือนสิงหาคม ภายหลังศาลมีคำตัดสินในคดีหลบเลี่ยงไม่เสียภาษี โดยพิพากษาจำคุกคุณหญิงพจมานเป็นเวลา 3 ปี ตัว พ.ต.ท.ทักษิณเองเมื่อเดือนที่แล้วก็ถูกลงโทษจำคุก 2 ปีด้วยความผิดเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน ในคดีซึ่งบังเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่เขายังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่

ได้มีการออกหมายจับบุคคลทั้งสองหลายฉบับ ซึ่งส่งผลให้พวกเขาอยู่ในฐานะเป็นผู้หลบหนีเงื้อมมือกฎหมายไทย ขณะที่การตัดสินใจแบบสายฟ้าแลบห้ามอดีตผู้นำรัฐบาลและคุณหญิงคู่นี้เข้าสหราชอาณาจักร ได้กระทำกันในสัปดาห์ที่แล้วโดยสำนักงานกิจการพรมแดนสหราชอาณาจักร บรรดาสายการบินในประเทศไทย รวมทั้งการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศไทย ต่างได้รับแจ้งการตัดสินใจของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองนี้โดยทางอีเมล์

คำสั่งห้ามเข้าประเทศของสหราชอาณาจักร ดูจะส่งผลทำให้ความพยายามของรัฐบาลไทยที่จะเอาตัวอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้กลับมาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ต้องประสบความยุ่งยากซับซ้อนเพิ่มขึ้นไปด้วย “รัฐบาลต้องทราบแน่ชัดเสียก่อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาศัยอยู่ที่ไหน จึงจะสามารถยื่นเอกสารขอตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศนั้นได้” นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวกับผู้สื่อข่าว “เราจำเป็นจะต้องติดตามตรวจสอบให้ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหนนับแต่บัดนี้ไป” เขาบอก

เมื่อวันจันทร์(10) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย นายควินตัน เควล ได้เข้าพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ของไทยเป็นเวลาร่วมชั่วโมง เพื่อบรรยายสรุปให้ฝ่ายไทยฟังถึงการตัดสินใจเพิกถอนวีซ่าดังกล่าว ภายหลังการหารือครั้งนี้ นายเควลไม่ยอมตอบข้อซักถามใดๆ แต่อ่านคำแถลงที่เตรียมมาให้ทางผู้สื่อข่าวฟัง

“ตลอดระยะเวลาที่เกิดวิกฤตทางการเมืองคราวนี้ขึ้นในประเทศไทย สหราชอาณาจักรยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในหลักการแห่งการสนับสนุนบรรดาสถาบันทางประชาธิปไตยของประเทศไทย โดยไม่มีการเลือกข้าง” คำแถลงระบุ “หลักการเดียวกันนี้ก็ได้นำมาปฏิบัติในเวลาที่เราพิจารณาเรื่องการตรวจคนเข้าเมืองด้วยเช่นกัน โดยที่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของสหราชอาณาจักรอย่างเคร่งครัด”

พ.ต.ท.ทักษิณมีแผนจะเดินทางไปที่ไหนต่อไปยังคงเป็นปริศนา เฉกเช่นเดียวกับที่เคยเป็นมาอยู่บ่อยครั้ง เวลานี้ (11) เขากำลังอยู่ในปักกิ่ง และปฏิเสธที่จะบอกว่าเขามีกำหนดการจะไปที่ไหนต่อ เขาอยู่ที่ฮ่องกงอย่างแน่นอนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ตอนที่เขาพูดให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์เข้ารายการทีวีเชียร์รัฐบาลรายการหนึ่ง โดยที่มีพวกผู้สนับสนุนเขาจำนวนกว่า 70,000 คนไปชุมนุมรับฟังกันอยู่ในสนามกีฬาแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

“ใครก็เอาผมกลับบ้านไม่ได้ นอกจากพระบารมีที่ทรงมีพระเมตตา หรือ พลังจากประชาชนเท่านั้น” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์คราวนั้น คำพูดของเขาจุดชนวนให้เกิดการโต้เถียงขัดแย้งระลอกใหม่ โดยที่พวกปรปักษ์ทางการเมืองของเขาและนายทหารระดับสูงในกองทัพไทย ออกมากล่าวหาว่า เขาละเมิดกฎหมายด้วยการพยายามดึงเอาพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งนี้ตามกฎหมายของไทยนั้น พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ย่อมอยู่เหนือการเมืองและเหนือการวิพากษ์วิจารณ์

พ.ต.ท.ทักษิณนั้นประณามกำลังทหารที่ขับไล่เขาออกจากอำนาจในการรัฐประหารเมื่อปี 2006 ว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เขาต้องประสบความลำบากเดือดร้อน แต่ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลสหราชอาณาจักรซึ่งในทางเป็นจริงก็คือเท่ากับห้ามเขาเข้าประเทศ ทำให้เขารู้สึกเซ็งจัด ทั้งนี้ตามปากคำของแหล่งข่าวหลายรายที่ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ บางคนหวั่นเกรงว่าการตัดสินใจของทางสหราชอาณาจักรอาจทำให้มีการเพิ่มเสริมความเป็นปรปักษ์กับพวกศัตรูทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณขึ้นมาอีก โดยที่อดีตนายกรัฐมนตรีก็กล่าวหาศัตรูทางการเมืองเหล่านี้อยู่แล้วว่ากำลังพยายามปิดปากเขา

“ผมต้องโฟนอินและพูดกับคนที่ยังรักและศัรทธาผม” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อรายหนึ่งเมื่อวันจันทร์(10) “ผมคงจะต้องพูดให้ยาวขึ้น และคงต้องเปิดเผยชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะเขาไล่ผมแบบนี้แล้ว มันมากไปแล้ว” เขาบอก

พ.ต.ท.ทักษิณมีกำหนดการที่จะไปฟิลิปปินส์ โดยที่จะพบปะหารือกับพวกพันธมิตรทางการเมืองผู้ภักดีและพวกสมาชิกรัฐสภาที่เป็นตัวแทนเขตเลือกตั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย อันเป็นพื้นที่ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณยังคงได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น เกษตรกรยากจนจำนวนมากของพื้นที่ดังกล่าวยกย่องเขาเสมือนเป็นวีรบุรุษทางการเมือง สืบเนื่องจากรัฐบาลของเขาได้ดำเนินนโยบายประชานิยมต่างๆ หลากหลาย ที่มุ่งยกระดับชุมชนรากหญ้าทั้งหลาย

เขาได้รับความนิยมน้อยในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้าน รวมทั้งในพื้นที่ปลูกข้าวทางภาคกลางที่อยู่รอบๆ เมืองหลวง ตลอดจนตัวเมืองหลวงกรุงเทพฯเองด้วย เป็นเพราะการแตกแยกทางการเมืองอย่างใหญ่โตระหว่างพวกผู้สนับสนุนและพวกที่เป็นปรปักษ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณเช่นนี้เอง ที่ทำให้ประเทศไทยเกิดการแบ่งขั้วอย่างรุนแรงจนตกอยู่ในภาวะวิกฤตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ฝ่ายปรปักษ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณที่นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เข้ายึดทำเนียบรัฐบาลเอาไว้เป็นเวลาร่วม 3 เดือนแล้ว

** เสียงเรียกร้องหาความยุติธรรม **

ก่อนหน้านี้ กลุ่มพันธมิตรฯเคยจัดการชุมนุมที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรในกรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ภายหลังเขาถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา ในคดีการทำข้อตกลงซื้อขายที่ดินแปลงหนึ่งด้วยมูลค่าที่ถูกกว่าราคาตลาดเป็นอันมาก โดยเป็นข้อตกลงที่กระทำกันระหว่างภริยาของเขาและหน่วยงานของรัฐบาลแห่งหนึ่งซึ่งเวลานั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนี้ แหล่งข่าวในวงการทูตไทยหลายรายระบุว่า คณะรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันที่นำโดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เวลานี้ก็ได้เริ่มต้นกระบวนการขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกันแล้ว

มีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้เริ่มต้นยื่นเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองในสหราชอาณาจักรเหมือนกัน ทว่าได้ถอนคำร้องของเขาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยคำสั่งห้ามเข้าประเทศของเขาต่อสาธารณชน แหล่งข่าวอาวุโสทางการเมืองที่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณรายหนึ่งกล่าว ขณะที่ตัวทักษิณเองบอกว่า “ผมยกเลิกการขอลี้ภัย เพราะผมไม่จำเป็น” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อรายหนึ่ง “ผมไม่ต้องการคำว่าลี้ภัย ผมต้องการเสรีภาพ เพราะผมเป็นนักประชาธิปไตย อะไรที่ไม่มีเสรีภาพผมไม่ชอบ” เขาบอก

อย่างไรก็ตาม การที่สหราชอาณาจักรยกเลิกวีซ่าของเขา และการที่เขาตัดสินใจไม่เดินหน้าตามแผนการเดิมที่จะยื่นขอลี้ภัยทางการเมือง น่าจะมีความเกี่ยวข้องโยงใยกันอยู่ ทั้งนี้ตามความเห็นของนักการทูตของไทยหลายรายซึ่งขอสงวนนาม ด้านโฆษกของกระทรวงมหาดไทยสหราชอาณาจักรเองนั้นกล่าวเพียงว่า ทางกระทรวงถือเป็นนโยบายที่จะไม่ให้ความเห็นใดๆ ในแต่ละกรณีที่เกิดขึ้น ถึงแม้แหล่งข่าวด้านการทูตหลายๆ รายบอกว่า การเพิกถอนวีซ่าแทบจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณถูกพิพากษาว่ามีความผิด

“มีแรงกดดันจำนวนมากทีเดียวกำลังโถมใส่รัฐบาลสหราชอาณาจักรจากทางกรุงเทพฯ” แหล่งข่าวนักการทูตผู้หนึ่งเผย “ในสภาพการณ์เช่นนี้ ทันทีที่ทั้งคู่เดินทางออกจากสหราชอาณาจักร การเพิกถอนวีซ่าของพวกเขาก็ย่อมจะต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว”

พ.ต.ท.ทักษิณใช้เวลาจำนวนมากในช่วงสองปีที่ผ่านมาโดยพำนักอยู่ที่บ้านพักหลายๆ แห่งที่เขาซื้อไว้ในอังกฤษ โดยแห่งหนึ่งเป็นคฤหาสน์ตั้งอยู่ที่เซอร์เรย์ ปีที่แล้วเขาได้ซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ก่อนที่จะปล่อยขายในแบบที่น่าจะมีกำไรเมื่อฤดูร้อนนี้แก่กลุ่มธุรกิจซึ่งตั้งอยู่ในอาบูดาบี

ยังมีรายงานว่าเขามีอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อเอาไว้แล้วในประเทศจีนด้วย ทั้งนี้ตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวอาวุโสรายหนึ่งในพรรคพลังประชาชน ผู้ซึ่งใกล้ชิดสนิทสนมกับอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ เป็นที่เชื่อกันว่าเวลานี้เขากำลังสร้างคฤหาสน์หลังหนึ่งมูลค่าราว 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯบนที่ดินใกล้ๆ กับสนามกอล์ฟ ไพน์แวลลีย์กอล์ฟคอร์ส ในปักกิ่ง ซึ่งเป็นของพวกพ้องที่ทำธุรกิจกับเขาคนหนึ่ง ตัว พ.ต.ท.ทักษิณเองปฏิเสธรายงานข่าวเหล่านี้

แหล่งข่าวหลายรายที่ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเคยวางแผนการที่จะพำนักอยู่ในสหราชอาณาจักรแบบไม่มีกำหนด ถึงแม้ประเทศไทยกำลังดำเนินกระบวนการขอให้ส่งตัวเขากลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนก็ตามที ทั้งนี้ทางทีมทนายความของทักษิณได้โต้แย้งครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ไม่สมควรส่งตัวเขากลับเมืองไทยเพราะเขาจะไม่ได้รับการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม นอกจากนั้นยังมีแง่มุมปัญหาทางกฎหมายด้วยว่า ความผิดที่เขาถูกพิพากษาลงโทษนั้นเป็นมูลฐานความผิดที่ครอบคลุมระบุไว้ในข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรหรือเปล่า

“ผลที่ออกมาในคราวนี้ก็คือ รัฐบาลสหราชอาณาจักรดูเหมือนจะใช้วิธีเต้นฟุตเวิร์กหลบฉากออกมาได้อย่างสวยงามทีเดียว โดยใช้ประโยชน์จากการที่ทั้งคู่ออกไปจากประเทศแล้ว มาประกาศเพิกถอนวีซ่าของพวกเขา และสั่งสายการบินต่างๆ ว่าอย่าได้นำพวกเขากลับมาอีก” แหล่งข่าววงการทูตรายหนึ่งในลอนดอนให้ความเห็น “การทำอย่างนี้เมื่อมองจากจุดยืนของสหราชอาณาจักรแล้ว ถือเป็นทางออกที่สวยงามในการแก้ปัญหาเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สหราชอาณาจักรไม่ได้บังคับให้ทักษิณกลับเมืองไทย แต่ก็ยืนยันออกมาชัดเจนว่าเขาจะต้องไปหาที่พำนักอาศัยที่อื่น ทำให้เขากลายเป็นปัญหาของคนอื่นไป”

ปัจจุบัน จีนดูเหมือนจะเป็นชื่อที่อยู่บนสุดในรายชื่อสถานที่ซึ่งเขาอาจใช้เป็นฐาน รัฐบาลจีนนั้นยังคงรักษาความสัมพันธ์อันมีไมตรีจิตกับอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ ทั้งเขาและภริยาต่างได้รับเชิญให้เป็นแขกเกียรติยศในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นที่ปักกิ่งนี้แหละที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้เป็นต้นทางบินไปสู่อังกฤษ แทนที่จะไปปรากฏตัวในศาลไทยที่นัดหมายพิจารณาคดีในข้อหามีผลประโยชน์ทับซ้อนของเขา ซึ่งต่อมาศาลก็ได้ตัดสินว่าเขากระทำความผิดตามข้อกล่าวหา

“ถ้าสหราชอาณาจักรสั่งห้ามเขาเข้าประเทศ ทางอียูก็น่าจะกระทำตามด้วย เช่นเดียวกับพวกสมาชิกของกลุ่มประเทศเครือจักรภพ อาทิ บรูไน, มาเลเซีย, และสิงคโปร์” นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำญี่ปุ่น และเวลานี้เสมือนเป็นโฆษกของกลุ่มพันธมิตรฯ บอกกับเอเชียไทมส์ออนไลน์ “นี่จะต้องมีผลกระทบต่อชาติสมาชิกอาเซียนด้วย” เขาพูดโดยไม่ได้ขยายความ

ทางด้านนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและก็เคยเป็นทนายความส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย บอกกับพวกสื่อมวลชนว่า เขาคาดหมายว่าอดีตนายกฯน่าจะพำนักอยู่ในประเทศแถบเอเชียแห่งใดแห่งหนึ่ง เขาอ้างว่ามีประเทศจำนวนมากที่ยังคงปรารถนาที่จะออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ “เป็นที่คาดหมายว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเลือกประเทศที่ให้เกียรติและต้อนรับท่าน และเป็นประเทศซึ่งท่านสามารถเดินทางเข้าออกได้อย่างอิสระ” เขากล่าว

อย่างไรก็ดี ประเทศในเอเชียส่วนใหญ่จะต้องรู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน ต่อการที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังคงเกี่ยวข้องพัวพันกับการเมืองไทยจากภายในเขตพรมแดนของพวกเขา ทั้งนี้ตามทัศนะของนักการทูตหลายต่อหลายราย “พวกเขาต่างก็จะต้องรู้สึกหงิดหงิดไม่พอใจที่กำลังถูกใช้เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง อีกทั้งหวั่นเกรงว่าเรื่องนี้จะสร้างความเสียหายให้แก่ความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับรัฐบาลไทย” นักการทูตชาติเอเชียผู้หนึ่งบอกเอเชียไทมส์ออนไลน์

ปักกิ่งนั้นก็ได้เคยเตือน พ.ต.ท.ทักษิณให้ถอยออกห่างจากการเมืองอย่างชัดเจนในขณะอยู่ในจีน ทั้งนี้ตามคำบอกเล่าของนักการทูตจีนหลายราย ยังมีประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากในแอฟริกา, ย่านทะเลแคริบเบียน, และอเมริกาใต้ ที่มีรายงานว่ายื่นเสนอที่จะรับเอาอดีตผู้นำที่ใกล้จนตรอกผู้นี้ เขาน่าจะได้รับฐานะเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของบาฮามาสไปเรียบร้อยแล้วด้วยซ้ำ โดยที่บามาฮาสก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เคยแสดงความจำนงให้เขาไปลี้ภัยตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ตามรายงานของพวกหนังสือพิมพ์ไทย

พ.ต.ท.ทักษิณจะอยู่รอดปลอดภัยและมีความมั่นคงเป็นอันดีหรือไม่ในสถานที่อันห่างไกลเหล่านี้ ยังคงเป็นคำถามที่ไร้คำตอบ “เราเชื่อว่ามีสมาชิกของฝ่ายทหารจำนวนหนึ่ง ซึ่งขบคิดพิจารณาที่จะสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าหากเขายังคงหลีกหนีระบบยุติธรรมของไทยอยู่เช่นนี้” ที่ปรึกษาอาวุโสผู้หนึ่งของรัฐบาลไทยกล่าวโดยขอให้สงวนนาม

ลาร์รี จาแกน เคยรายงานข่าวการเมืองพม่าให้แก่ บริติช บรอดคาสติง คอร์ป (บีบีซี) ปัจจุบันเขาเป็นนักหนังสือพิมพ์อิสระที่พำนักอยู่ในกรุงเทพฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น