เอเอฟพี - เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศสนับสนุนแนวคิดให้จัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 2 ในปีนี้ หลังจากที่เขาเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเผชิญ "ภาวะชะลอตัวยาวนาน"
"ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่อาจอ่อนตัวเป็นเวลาหลายไตรมาส และมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการชะลอตัวอย่างยาวนาน การที่รัฐสภาจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้นับได้ว่าเหมาะสมกับสถานการณ์" เบอร์นันกีกล่าวระหว่างการให้ปากคำในที่ประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20)
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กำลังพยายามผลักดันเสนอให้เปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 4 พฤศจิกายน เพื่อพิจารณางบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์
ตามแผนดังกล่าว รัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะเพิ่มงบประมาณการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน โครงการแสตมป์อาหาร และโครงการประกันการว่างงาน รวมทั้งจะให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนด้านการรักษาสุขภาพ
เปโลซีแสดงความยินดีที่เบอร์นันกีแสดงทัศนะสนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสภาคองเกรส พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชและวุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกันเปลี่ยนใจหันมาหนันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้ด้วย ซึ่งเธอกล่าวว่าเป็นแผนงบประมาณที่จะช่วยสร้างงาน และฟื้นเศรษฐกิจอย่างมีเป้าหมายและถูกต้องตามจังหวะเวลา
ประธานาธิบดีบุชลงนามประกาศใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับแรกมูลค่า 168,000 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เมื่อสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเดโมแครตผลักดันให้ออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 2 จนกระทั่งสามารถผ่านสภาผู้แทนราษฎรมาได้ในเดือนที่แล้ว วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันก็ลงมติคัดค้านในวุฒิสภา ทำให้ร่างแผนการนี้ได้เสียงสนับสนุนไม่เพียงพอและต้องตกไป
อย่างไรก็ดี เมื่อมาถึงเวลานี้ทำเนียบขาวก็ทำท่าว่าอาจจะเปลี่ยนใจแล้ว โดยแถลงในวันจันทร์ว่าพร้อมที่จะรับพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 2 แม้ยังไม่มีความมั่นใจในแนวทางของพรรคเดโมแครต
เดนา เปอริโน โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า คณะรัฐบาลยังคงยินดีรับพิจารณาความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนในขณะนี้
ระหว่างไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณ เบอร์นันกีกล่าวถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในขณะนี้ว่า การบริโภคตกต่ำลง และความเชื่อมั่นอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ตลาดบ้านพักอาศัยยังคงอยู่ในสภาวะหดตัว การจับจ่ายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงในทุกภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ
เมื่อถูกถามเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย เบอร์นันกีปฏิเสธที่จะใช้คำดังกล่าว เพียงแต่ชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริงต่อเนื่องเป็นเวลาหลายไตรมาส ซึ่งนักวิเคราะห์บางราย กล่าวว่า นั่นเป็นรหัสบอกใบ้ถึงการยอมรับว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะหดตัวต่อเนื่องกันเกินกว่า 2 ไตรมาส อันหมายถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามนิยามทางเศรษฐศาสตร์
"เศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัวรุนแรงมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบในเชิงลบร้ายแรงต่อสาธารณชน จะเรียกว่าถดถอยหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น" เบอร์นันกีกล่าว หลังจากถูกรุกถามอย่างหนักเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ ที่จะแปลความได้ว่า อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพียงแต่กล่าวว่า แรงกดดันของเงินเฟ้อเริ่มอ่อนตัวลงเนื่องจากการลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และการนำเข้า
"หากสถานการณ์ยังดำเนินไปในลักษณะนี้ ประกอบกับแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพไปอีกระยะหนึ่ง อัตราเงินเฟ้อน่าจะอ่อนตัวลงมาอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพได้ในไม่ช้า" เบอร์นันกีกล่าว
เมื่อวันที่ 8 เดือนนี้ เฟดได้ประกาศตัดลดดอกเบี้ยพร้อมๆ กับธนาคารกลางชั้นนำในยุโรปและอเมริกาอื่นๆ โดยที่อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เฟดฟันด์เรต ถูกหั่นลงครึ่งเปอร์เซ็นต์ เหลือ 1.5%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีกำหนดประชุมกันครั้งต่อไปในวันที่ 28-29 นี้ โดยที่นักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่ายังน่าจะมีการลดดอกเบี้ยต่อไปอีก