เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างรุนแรงเกือบ 9 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ (10) แตะระดับต่ำกว่า 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดในรอบ 1 ปี ท่ามกลางเศรษฐกิจถดถอยของโลกที่จุดประกายความกลัวว่าอาจส่งผลต่อดีมานด์น้ำมันที่ลดลง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ร่วงกราวรูดถึง 8.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน ดิ่งลง 8.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สืบเนื่องจากผู้ค้าตื่นตระหนกกับตลาดหุ้นโลกที่ร่วงลงอย่างรุนแรง
"ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกในอนาคตจะถดถอย ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโดยตรง" นักวิเคราะห์จากธนาคารดอยซ์แบงก์กล่าว "ความเสื่อมลงเรื่อยๆของจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) ในภายภาคหน้า อาจจุดชนวนให้ราคาน้ำมันลดต่ำลง" เขากล่าวต่อและคาดหมายว่าราคาน้ำมันอาจดิ่งลงถึงระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
12 ชาติสมาชิกของกลุ่มโอเปก แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (9) ว่าจะจัดประชุมฉุกเฉินที่เวียนนา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน เพื่อหารือถึงผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตการเงินของโลก
ขณะที่ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ ได้เตือนเช่นกันว่า ภัยคุกคามของความถดถอยทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเงินจะกัดเซาะดีมานด์น้ำมันและสร้างความเสียหายให้กับการลงทุนในบ่อน้ำมันใหม่ๆ
ในการประชุมครั้งล่าสุดของโอเปกเมื่อวันที่ 9-10 กันยายนที่ผ่านมา ทางกลุ่มได้ตัดสินใจลดกำลังผลิตลง 520,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อรั้งให้ราคาน้ำมันอยู่เหนือ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทว่าตั้งแต่นั้นราคาน้ำมันก็ดิ่งลงเรื่อยๆ
ขณะเดียวกันรายงานประจำเดือนของไออีเอ ลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันในปี 2008 ลง 240,000 บาร์เรลต่อวัน และในปี 2009 ลง 440,000 บาร์เรลต่อวัน ไออีเอคาดความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีนี้จะอยู่ที่ 86.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในปีหน้าจะอยู่ที่ 87.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน