น้ำมัน-หุ้นปรับตัวลดลงหลัง ส.ส.มะกันผ่านแผนกู้เศรษฐกิจ

เอเจนซี - ราคาน้ำมันร่วงลงเล็กน้อยในวันศุกร์ (3) หลัง ส.ส.สหรัฐฯ มีมติเห็นชอบแผนกอบกู้ภาคการเงินที่ลงนามผ่านเป็นกฎหมายแล้วและมีน้ำหนักมากกว่าความกังวลด้านดีมานด์ ส่วนตลาดหุ้นยังปรับตัวลงอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนยังวิตกต่อวิกฤตสินเชื่อ

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎาสหรัฐฯ ลงมติผ่านแผนกอบกู้เศรษฐกิจ 7 แสนล้านดอลลาร์ และส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ลงนามเป็นกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ตกลง 9 เซนต์ ปิดที่ 93.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคยร่วงถึง 4.56 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี (2) จากความกังวลด้านดีมานด์ที่ตกต่ำลง ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอน ปิดที่ 90.25 ดอลลาร์ ลดลง 31 เซนต์

ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและวิกฤตเศรษฐกิจได้สร้างความเจ็บปวดต่อการบริโภคน้ำมันของสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก หลังจากราคาน้ำมันถีบตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนกรกฎาคม

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ขณะที่แผนปล่อยกู้อาจยับยั้งความถดถอยอย่างสาหัสในเศรษฐกิจ แต่มันดูเหมือนจะกระตุ้นดีมานด์น้ำมันอันเฉื่อยชาได้เพียงเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันทรุดลงอย่างมาก หลังจากมีการเปิดเผยว่าตัวเลขการปรับลดพนักงานของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน อยู่ในอัตราสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง

ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ลงสนามในแผนกู้เศรษฐกิจ 7 แสนล้านดอลลาร์ หลังผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภา โดยระบุว่ากฎหมายฉบับนี้ถือเป็นสาสน์ความสงบที่ส่งไปยังตลาดทั่วโลก แต่เตือนถึงอเมริกันผู้กังวลว่าคงต้องใช้เวลามาตรการนี้ถึงจะเห็นผล

"เราต้องแสดงให้โลกเห็นว่าสหรัฐฯ จะมีเสถียรภาพทางตลาดเงินและรักษาบทบาทผู้นำในเศรษฐกิจโลกต่อไป" บุชกล่าว

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ (3) ดิ่งลงอย่างแรง แม้ว่าสภาคองเกรสได้ผ่านแผนกู้วิกฤตภาคการเงินมูลค่ามหาศาล เหตุเพราะนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อและเศรษฐกิจที่อ่อนแอของโลก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ ร่วงลง 156.51 จุด (1.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,326.34 จุด ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นแนสเด็ค ร่วงลง 29.33 จุด (1.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,947.39 จุด และดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ 500 ร่วงลง 14.85 จุด (1.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,099.43 จุด