เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ของออสเตรเลียเผยประเทศพันธมิตรสหรัฐฯ จะกดดันให้สภาคองเกรสเร่งผ่านแผนกอบกู้เศรษฐกิจจำนวน 7 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยระบบการเงินที่ล้มเหลวของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
รัดด์ เผยว่า เขาได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี กอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ ในคืนที่ผ่านมา และพวกเขาเห็นพ้องกันว่าจะเร่งให้สภานิติบัญญัติสหรัฐฯ กลับการตัดสินใจ ที่ได้ปฏิเสธแผนกู้เศรษฐกิจ 700,000 ล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
นอกจากนี้ รัดด์ยังกล่าวในการแถลงข่าวว่า เขาเชื่อว่า ประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ จะเห็นด้วยในการกระตุ้นให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายแผนกู้เศรษฐกิจ หรือมาตรการเช่นเดียวกันนี้ เมื่อนำขึ้นเสนอในสภาคองเกรสอีกครั้งในสัปดาห์นี้
“นี่เป็นความจำเป็นเพื่อความมั่นคงของตลาดการเงินสหรัฐฯ และความจำเป็นสำหรับความมั่นคงของตลาดการเงินโลกด้วย” เขาระบุ
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เสริมว่า หากร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่านสภาคองเกรส จะส่งผลกระทบต่อทั้งสหรัฐฯ และทั่วโลก โดยออสเตรเลีย และอังกฤษตั้งใจจะถกเถียงกันเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างจริงจังในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
อย่างไรก็ตาม รัดด์ ชี้ว่า ความเคลื่อนไหวของเขาเป็นเพียงการสร้างความมั่นใจว่าภาคการเงินท้องถิ่นจะยังคงเข้มแข็ง และผ่านพ้นวิกฤตการเงินครั้งนี้ไปได้
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นของออสเตรเลียก็ร่วงระนาว โดย S&P/ASX 200 ตกลงถึง 5.2% เหลือเพียง 4,558.2 ภายใน 25 นาที หลังจากที่ตลาดเปิด และไม่นานหลังจากสภาคองเกรสปฏิเสธแผนกู้เศรษฐกิจดังกล่าว
