เอเจนซี - จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐฯ และบรรดาผู้นำโลกคนอื่นๆ เมื่อวันอังคาร (23) ร่วมหาทางจำกัดวงวิกฤตเศรษฐกิจที่ห้อมล้อมวอลล์สตรีท และส่งคลื่นไปช็อกไปทั่วโลก ณ ที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ พร้อมกันนั้น ประธานาธิบดีรายนี้ยังได้รับประกันว่ารัฐบาลของเขา และสภาคองเกรส จะทำงานร่วมกันในการอนุมัติแแผนกอบกู้เศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
บุช ใช้การกล่าวสุนทรพจน์อำลาสหประชาชาติ รับประกันต่อคำมั่นของเขาในการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินทั่วโลก ณ ช่วงเวลาที่นานาชาติมีความกังวลต่อปัญหาทางเศรษฐกิจบดบังรัศมีความตึงเครียดเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับ รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ
การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ มีขึ้นท่ามกลางความพยายามที่คร่ำเคร่งในวอชิงตันระหว่างรัฐบาลของประธานาธิบดี บุช กับ ส.ส.สหรัฐฯ ในการอนุมัติแผนกู้ภาคการเงิน มูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์
“ผมสามารถรับประกันคุณได้ว่ารัฐบาลของผมและสภาคองเกรสของเรากำลังทำงานร่วมกันอย่างเร่งด่วนในการอนุมัติยุทธศาสตร์นี้ และผมมั่นใจว่า เราจะลงมือตามกรอบเวลาที่ด่วนจี๋” บุช กล่าว
ด้วยการที่นักลงทุนยังอยู่ในความกังวล และวิกฤตกำลังขยายวงกว้างไปยังชาติต่างๆ ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอื่นๆ ก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน ขณะที่ชาติยากจนกลัวว่าปัญหานี้จะนำไปสู่การหั่นงบช่วยเหลือจากประเทศผู้ให้บริจาครายใหญ่ที่สุดของพวกเขา
คำปราศรัย ณ ที่ประชุมที่อยู่ห่างจากวอลล์สตรีทไม่กี่ไมล์ บันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ บอกว่า ความยุ่งเหยิงทางการเงินเป็นอันตรายต่อความพยายามลดความยากจนของโลกและเรียกร้องวิธีการใหม่ซึ่งมีความศรัทธาต่อความเสมอภาคมากขึ้น
ทั้งนี้ คำพูดของเขาอาจได้รับการประสานเสียงจากตัวแทนของรัฐบาลฝ่ายซ้ายจัด ผู้ต่อต้านลัทธิตลาดเสรีที่รัฐบาลของบุชให้การสนับสนุน “วิกฤตทางการเงินของโลกทำให้งานทุกอย่างของเราตกอยู่ในความเสี่ยง” บัน กล่าวกับที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ “เราจำเป็นต้องปฏิรูประเบียบตลาดการเงินนานาชาติ”
นอกจากนี้ บุช ยังยืนกรานในคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ต่อการเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายของอิหร่านและซีเรีย ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่สองชาติปฏิเสธ และได้เร่งเร้าชาติสมาชิกสหประชาชาติบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านและเกาหลีเหนือเกี่ยวกับโปรแกรมนิวเคลียร์ “เรายังคงต้องเฝ้าระวังการแพร่ขยายปรมาณู” บุชกล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศจากอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซียและสหรัฐฯ มีแผนหารือกันในวันพฤหัสบดี (25) เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการร่างมติคว่ำบาตรรอบที่ 4 ของยูเอ็นที่มีต่ออิหร่านเกี่ยวกับโปรแกรมนิวเคลียร์