แฉพ่อชั่วแอบทำรีโมตประตูหวังขังลูกสาวจนตายคาห้องใต้ดิน!

เอเอฟพี – เจ้าหน้าที่สืบสวนของออสเตรียโต้แย้งข้ออ้างของพ่อชั่วซึ่งจับลูกสาวตัวเองมาขังไว้ในห้องใต้ดินและข่มขืนนานกว่า 24 ปี จนมีลูกด้วยกัน 7 คน ซึ่งระบุว่าประตูห้องใต้ดินจะเปิดออกโดยอัตโนมัติในกรณีที่เขาหายไปจากบ้านเป็นเวลานาน

นิตยสารนิวส์ของออสเตรียรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนในคดีสะเทือนขวัญดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าห้องใต้ดินที่โจเซฟ ฟริตเซล วัย 73 ปี สร้างขึ้นเพื่อกักขังเอลิซาเบธ ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองนั้น ไม่มีกลไกอย่างที่เขากล่าวอ้างแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ฟริตเซลได้บอกกับตำรวจว่าประตูเหล็กเสริมคอนกรีตของห้องใต้ดินจะเปิดออกโดยอัตโนมัติหากเขาไม่อยู่บ้านเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สืบสวนของออสเตรียซึ่งรับผิดชอบคดีดังกล่าวกลับระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าประตูห้องใต้ดินจะเปิดออกได้ก็ด้วยรีโมตคอนโทรลซึ่งฟริตเซลถืออยู่ หรือการกดสวิตช์ด้านนอกห้องเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่าเอลิซาเบธและลูกๆ อีก 3 คนที่ถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินกับผู้เป็นแม่อาจถูกทิ้งให้ตายอยู่ภายในห้องดังกล่าวหากเกิดอะไรขึ้นกับฟริตเซล

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ยืนยันด้วยว่า ห้องใต้ดินดังกล่าวสามารถเดินลงไปถึงโดยผ่านประตูที่ถูกล็อกไว้ถึง 8 ชั้น ซึ่งประตู 3 ชั้นสุดท้ายจะเปิดออกด้วยระบบไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยฟริตเซลซึ่งเคยเป็นวิศวกรไฟฟ้ามาก่อนนั่นเอง

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนของออสเตรียยังพบว่า ระบบไฟฟ้าในห้องใต้ดินดังกล่าวถูกสร้างขึ้นอย่างลวกๆ และเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นได้ทุกเมื่อ และเชื่อว่าในช่วงที่ฟริตเซลไม่อยู่บ้าน ห้องดังกล่าวน่าจะเคยเกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนทำให้เอลิซาเบธและลูกๆ ต้องใช้ชีวิตในห้องที่มืดมิดเป็นเวลานานหลายวันหรืออาจถึงสัปดาห์มาก่อนแล้ว

รายงาน ระบุด้วยว่า ระบบระบายอากาศภายในห้องใต้ดินซึ่งไม่มีแม้กระทั่งหน้าต่างสักบาน มีไม่เพียงพอ เนื่องจากห้องทั้งห้องมีเพียงเครื่องระบายอากาศเพียงเครื่องเดียวอยู่ในนั้น

ทั้งนี้คาดว่าฟริตเซลซึ่งถูกควบคุมตัวเพื่อรอการพิจารณาคดีอยู่ที่เรือนจำแซงต์ โพเอลเทน จะถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ก่อนที่ศาลจะเริ่มการพิจารณาคดีในช่วงปลายปีนี้