เอเอฟพี – เครื่องบินโดยสารโบอิง 747 ของสายการบินแควนตัส ซึ่งบินออกจากกรุงลอนดอน เพื่อเดินทางไปยังเมืองเมลเบิร์น ลงจอดฉุกเฉินในสนามบินกรุงมะนิลา หลังประสบปัญหาทางเทคนิค
อัลฟองโซ คูซี ผู้จัดการท่าอากาศยาน กล่าวว่า นักบินของเครื่องบินลำดังกล่าวเรียกร้องขอลงจอดฉุกเฉิน โดยยังไม่ทราบปัญหาที่แท้จริง
ด้านผู้โดยสาร เผยว่า เครื่องบินซึ่งมีผู้โดยสาร และลูกเรือราว 300 คน เริ่มลดระดับความสูง ขณะกำลังบินผ่านฮ่องกง หลังเกิดเสียงระเบิดที่ประตู ระหว่างการเดินทาง
หนังสือพิมพ์ เฮอรัลด์ ซันของเมลเบิร์น รายงานบนเว็บไซต์ว่า ผู้โดยสารเล่าถึงเหตุการณ์ ที่ประสบกับภาวะความดันอากาศในห้องโดยสารลดลง จนทำให้หน้ากากออกซิเจนตกลงมาจากเพดาน
ขณะที่ ผู้โดยสารคนหนึ่ง เล่าว่า นักบินสามารถปฏิบัติหน้าที่ ในการควบคุมเครื่องบินได้อย่างน่าทึ่ง
ด้าน โฆษกสายการบินแควนตัสปฏิเสธที่จะยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวเพียงแต่ว่า เครื่องบินได้เปลี่ยนเส้นทางไปยังกรุงมะนิลาแทน และขณะนี้ยังอยู่ภายใต้การตรวจสอบสาเหตุ รวบรวมข้อมูล
อย่างไรก็ตาม โลเรนา ดิมายา ผู้ช่วยผู้บริหารของสายการบินแควนตัสของสนามบินในกรุงมะนิลา ยืนยันว่า เครื่องบินลำดังกล่าวลงจอดฉุกเฉินจริง แต่เหตุการณ์นี้ไม่มีอันตรายถึงชีวิต และเครื่องบินก็ลงจอดอย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
เธอระบุว่า เครื่องบินออกจากฮ่องกง เมื่อพบปัญหาทางเทคนิค และขอเปลี่ยนเส้นทางมายังกรุงมะนิลา และได้นำตัวผู้โดยสาร และลูกเรือทั้งหมดของเครื่องบินลำนี้ไปพักยังโรงแรมแล้ว
ขณะที่ สถานีวิทยุท้องถิ่นรายงาน โดยอ้างอังเกล อาตูตูโบ ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลาว่า เครื่องบินลำนี้เกิดรูขนาดใหญ่ ที่กลางลำบริเวณใกล้กับปีกด้านขวาของเครื่องบิน
ทั้งนี้ เที่ยวบินคิวเอฟ 30 ออกเดินทางจากฮ่องกงเมื่อเวลา 09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 8.00 น.ตามเวลาของไทย และมีกำหนดถึงเมลเบิร์นที่เวลา 21.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 18.45 น.ตามเวลาของไทย ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของแควนตัส