เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงลงอีก 4 ดอลลาร์ เมื่อวันพุธ (16) ดิ่งลงต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ หลังยอดน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ กระโดดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ผู้ค้าน้ำมันระบุ
ราคาน้ำมันทำสถิติร่วงลงแรงที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 17 ปี ณ ตลาดนิวยอร์ก เมื่อวันอังคาร (15) ท่ามกลางความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่อาจทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง
สัญญาซื้อขายน้ำมันหลักของนิวยอร์กวันพุธ (16) น้ำมันดิบไลต์สวีทงวดส่งมอบเดือนสิงหาคมร่วงลงอีก 4.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 134.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเมื่อวันอังคาร ดิ่งลงถึง 6.44 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่าร่วงลงแรงที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคมปี 1991
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ในตลาดลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ตกลงไปอีก 2.56 ดอลลาร์เหลือ 136.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นผลสืบเนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ โดยสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบสำรองเพิ่มขึ้นอีก 3.0 ล้านบาร์เรล เป็น 296.9 ล้านบาร์เรลในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผิดจากเดิมที่ตลาดเคยคาดหมายไว้ว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ลดลงจากที่ทำสถิติสูงสุดเมื่อวันศุกร์ (11) 147 ดอลลาร์ อาจเป็นแค่ช่วงสั้นๆ โดยนักวิเคราะห์มองว่าปริมาณน้ำมันสำรองที่เพิ่มของสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นเครื่องสะท้อนดีมานด์ที่ค่อยๆลดลงในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของอเมริกา ชาติผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
จากรายงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ชาวอเมริกันบริโภคน้ำมันลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน นอกจากนี้การเปลี่ยนนโยบายทางการทูตของสหรัฐฯ ต่ออิหร่านอย่างกะทันหันในช่วงค่ำวันอังคาร ก็เป็นอีกปัจจัยที่คลี่คลายความกังวลด้านซัปพลายไปได้ไม่น้อย นักวิเคราะห์กล่าว
สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้ส่งวิลเลียม เบิร์นส์ ปลัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ร่วมการเจรจาระหว่างฮาเวียร์ โซลานา หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) และซาอีด จาลิลี หัวหน้าคณะเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอของชาติมหาอำนาจเพื่อให้อิหร่านยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์