เอเจนซี - เจเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของอเมริกาและของโลก ประกาศเมื่อวันอังคาร (15) ที่ผ่านมา จะลดต้นทุนอีก 10,000 ล้านดอลลาร์ ระงับการจ่ายเงินปันผล และขายสินทรัพย์เป็นมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
จีเอ็มประกาศแผนปรับโครงสร้างอย่างฉับพลันฉบับนี้เป็นฉบับที่ 2 ในรอบ 6 สัปดาห์ ด้วยแรงกดดันจากหลายปัจจัย อาทิ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้บริโภคหลีกหนีรถกระบะและรถเอสยูวีที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูง ยอดขาดรถยนต์ในตลาดสหรัฐฯตกต่ำสุดในรอบทศวรรษ และนักลงทุนไม่มั่นใจในอนาคตของจีเอ็มเอง
จีเอ็มซึ่งประสบภาวะขาดทุนสะสม 51,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่ได้เลิกจ้างพนักงานและปิดโรงงานไปเป็นจำนวนมาก แถลงว่า การปรับโครงสร้างทางการเงินครั้งล่าสุดครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อคลายความวิตกกังวลที่กดดันให้ราคาหุ้นของบริษัทตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 54 ปี ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น
"เรามองว่าสภาพแวดล้อมในตลาดทุนมีความเป็นปฏิปักษ์รุนแรงขึ้น" ฟริตซ์ เฮนเดอร์สัน ประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของจีเอ็มกล่าวระหว่างการแถลงข่าว และเสริมว่า "ทุกท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่าตลาดการเงินในขณะนี้เป็นอย่างไร"
จีเอ็ม แจกแจงรายละเอียดว่า จะลดการจ้างพนักงานระดับบริหารลง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดกันว่าจะหมายถึงการเลิกจ้างงานพนักงานระดับสูงหลายพันตำแหน่ง จากจำนวนทั้งหมด 4 หมื่นตำแหน่งทั่วภูมิภาคอเมริกาเหนือปัจจุบัน
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า แผนปรับโครงสร้างฉบับล่าสุดของจีเอ็ม มีเป้าหมายจะเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน 15,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาไปจนถึงตลอดปี2009 เพื่อคลายความกังวลในตลาดวอลล์สตรีท เกี่ยวกับกระแสเงินสดของบริษัทที่เหลือเพียง 24,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ เตือนว่า โอกาสที่จะพลิกสถานการณ์กลับมามีกำไรของจีเอ็มนั้น ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและความสามารถของจีเอ็ม ในการทำยอดขายรถนั่งส่วนบุคคลที่ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันบริษัทโตโยตา มอเตอร์ คอร์ป เป็นผู้ครองตลาดอยู่
นอกจากนั้น จีเอ็มยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับมาตรการปรับโครงสร้างบริษัทต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2005 เนื่องจากหลายฝ่ายเห็นว่า เป็นมาตรการที่ไม่เพียงพอจะหยุดยั้งภาวะการขาดทุนสะสมของบริษัทได้
"อุปสงค์ในตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์นั่งและรถกระบะ ต้องดีขึ้น วิกฤตการณ์สภาพคล่องของจีเอ็มจึงจะคลี่คลายลงไปได้" ทิม กริสคีย์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ โซลารีส แอสเส็ท แมนเนจเมนท์ ในนิวยอร์กกล่าว และว่า "จีเอ็นต้องการเงินสดในมือไตรมาสละประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์ บริษัทจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกระแสเงินสดโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นจะเผชิญกับปัญหายุ่งยากมากขึ้น"
จีเอ็ม คาดการณ์ว่า จะลดค่าใช้จ่ายลงได้ 10,000 ล้านดอลลาร์ตลอดถึงปี 2009 ด้วยมาตรการลดต้นทุนหลายมาตรการ รวมทั้งการลดตำแหน่งงานระดับสูง ลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของพนักงานเกษียณอายุ และการงดจ่ายโบนัสผู้บริหารในปี 2008
จีเอ็มมีแผนจะลดการลงทุนลง 1,500 ล้านดอลลาร์ และเร่งปิดโรงงานตามที่ประกาศไว้เมื่อเดือนที่แล้วให้เร็วขึ้น และเปลี่ยนยุทธศาสตร์ด้านการผลิตโดยลดการผลิตรถยนต์เอสยูวี และรถกระบะให้น้อยลงกว่าเดิม
มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิซ ให้ความเห็นถึงมาตรการปรับโครงสร้างทางการเงินของจีเอ็มครั้งนี้ว่า เป็นมาตรการที่ "สร้างสรรค์" แต่ก็ยังคงปรับลดอันดับเครดิตของจีเอ็มลงไปอยู่ในกลุ่ม "ขยะ" โดยอ้างเหตุผลว่า จีเอ็มยังมีปัญหาท้าทายอีกมาก อันเนื่องมาจากภาวะขาดทุนในสายการผลิตรถกระบะและรถเอสยูวี