เอเจนซี/เอเอฟพี - บรรดาผู้นำกลุ่ม 8 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี 8) ออกคำแถลงจากที่ประชุมบนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ (8) แสดงความวิตกที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญความไม่แน่นอนและความเสี่ยงขาลงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ราคาน้ำมันพุ่งลิ่ว
ในคำแถลงว่าด้วยเศรษฐกิจที่นำออกเผยแพร่ในวันที่ 2 ของการประชุมประจำปีระดับผู้นำจี 8 เป็นเวลา 3 วันคราวนี้ ยังมีเนื้อหาที่ไม่เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ แต่ก็แทบไม่มีข้อให้สงสัยเลยว่า คือการเรียกร้องจีนให้ปล่อยค่าเงินหยวนให้ลอยตัวเพิ่มขึ้น เพื่อลดความไม่สมดุลในตลาดการเงินโลกลง
"สำหรับประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่บางประเทศซึ่งได้เปรียบดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างมหาศาลนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ค่าเงินจะต้องเคลื่อนไปไหนทิศทางอันจะทำให้บังเกิดการปรับตัวที่จำเป็นขึ้นมา" คำแถลงของผู้นำจี 8 กล่าว
คำแถลงของผู้นำจี 8 ฉบับนี้ ไม่ได้เอ่ยถึงค่าเงินสกุลอื่นใด รวมทั้งการอ่อนตัวของดอลลาร์ ถึงแม้ตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ บอกว่า ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้กล่าวว่าในระหว่างการประชุมว่า เขาหนุนนโยบายทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งแกร่ง
"ประธานาธิบดีได้ยืนยันว่าสหรัฐฯ นั้นมีผลประโยชน์กับเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง และก็จะสนับสนุนให้ค่าเงินของประเทศมีความแข็งแกร่งต่อไปอีก" แดน ไพรซ์ ผู้ช่วยของบุชทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศชี้แจงต่อนักข่าว รวมทั้งบอกว่า ในที่ประชุมได้หยิบยกเอาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นมาพูดคุยโดยรวม ๆ
อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินโลกที่ไม่ได้คาดหวังอะไรจากการประชุมจี 8 อยู่แล้วก็ไม่ได้ให้ความสนใจต่อคำกล่าวเหล่านี้เลย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเองก็ออกมายอมรับว่า แม้จะมีการพูดคุยแสดงความคิดห็นกันว่าควรจะมีความร่วมมือทั้งในและนอกกลุ่มจี 8 โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศเฟื่องฟูใหม่แต่ว่าก็ไม่มีการพูดถึงรายละเอียดว่าควรจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปในเกี่ยวกับตลาดปริวรรตเงินตราระหว่างประเทศ
ประเด็นอื่นๆ นั้น ผู้นำจากญี่ปุ่น อังกฤษ แคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี รัสเซียและสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจของตนเองยังคงรับมือกับภาวะยากลำบากได้ดี รวมทั้งคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งพวกเขายังเห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศเฟื่องฟูใหม่ยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งต่อไป
"อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนและความเสี่ยงในด้านลบก็ยังคงอยู่ ในบรรดาปัจจัยทั้งหมด เราแสดงความเป็นกังวลอย่างยิ่งต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะอาหารและน้ำมัน เพราะว่าจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก รวมทั้งมีนัยไปถึงว่าโลกกำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันเงินเฟ้ออยู่" กลุ่มจี 8 กล่าวในคำแถลง
ผู้นำจี 8 เรียกร้องให้ผู้ผลิตน้ำมันเร่งการผลิตน้ำมันดิบและเพิ่มความสามารถในการกลั่นในระยะสั้นให้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ก็ยังควรจะต้องเร่งการพัฒนาและลงทุนสำหรับอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำในระยะกลางอีกด้วย
จี 8 เน้นว่า ประเทศผู้ผลิตและผู้ใช้จะต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้ และก็ฝากความหวังไว้กับการประชุมในลอนดอนช่วงสิ้นปีนี้ว่าจะสามารถต่อยอดการหารือระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้ให้ก้าวหน้าไปกว่าการประชุมที่เจดดาห์เมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนี้กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 8 ชาติก็ยังได้วางแผนที่จะสร้างเวทีเพื่อหารือเรื่องประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยให้การหารือระหว่าง 2 ฝ่ายเป็นไปโดยสะดวกและราบรื่นยิ่งขึ้น
อีกประเด็นหนึ่งที่มีการหยิบยกมาหารือกันในครั้งนี้ก็คือ เรื่องโลกร้อน ซึ่งที่ประชุมจี 8 เห็นพ้องว่า จะต้องเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่บรรยากาศโลกให้เหลือครึ่งหนึ่งภายในปี 2050 แต่ก็ได้ย้ำด้วยว่ากลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำไม่สามารถจะทำเรื่องนี้เพียงฝ่ายเดียวได้ นอกจากนี้ในแถลงการณ์ร่วมเรื่องโลกร้อนก็ยังไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงเท่าใดกันแน่ กล่าวแต่เพียงว่าจะตั้งเป้าหมายร่วมกันเพื่อ "ให้เห็นภาพรวมเดียวกัน" ในปี 2050