เอเอฟพี - ผู้ช่วยหนุ่มผู้กล่าวหา อันวาร์ อิบราฮิม หัวหน้าฝ่ายค้านล่วงละเมิดทางเพศเขา อยู่ภายใต้การอารักขาของตำรวจหลังได้รับคำขู่ เจ้าหน้าที่เปิดเผยในวันจันทร์ (7)
ข้อกล่าวหาที่มีต่ออันวาร์ ผู้ที่อ้างว่าตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลซึ่งต้องการขัดขวางการเข้าสู่อำานาจของเขา จุดชนวนพายุทางการเมืองอย่างกว้างขวาง ขณะที่ นาจิบ ราซัค รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็เผชิญข้อกล่าวหาที่สาหัสเช่นกัน
ผู้อำนวยการทบวงสืบสวนอาชญากรรม บาครี ซินิน กล่าวว่า ผู้กล่าวหาอันวาร์ อดีตแกนนำนักศึกษาวัย 23 ปี อาสาสมัครของพรรคฝ่ายค้าน จะอยู่ภายใต้อารักขาของตำรวจจนกว่าการสืบสวนเสร็จสมบูรณ์
“เขาร้องขอ (มาตรการความปลอดภัย) เขาบอกว่าเขาถูกข่มขู่และกังวลกับชีวิตของตนเอง” บาครีบอกกับเอเอฟพี “เขาแจ้งความกับตำรวจ ดังนั้น ภายใต้ข้อบังคับในรัฐธรรมนูญ เขามีสิทธิ์ที่จะร้องขอการอารักขา เขาต้องการคนคุ้มครอง เราจึงต้องเตรียมการให้เขา”
ชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม ไม่นานหลังจากที่เขาแจ้งความกับตำรวจกล่าวหาอันวาร์ ล่วงละเมิดทางเพศ ข้อกล่าวหาเดียวที่ทำให้ผู้นำฝ่ายค้านรายนี้ต้องติดคุกเมื่อ 10 ปีก่อน
ข้อกล่าวหานี้คุกคามการกลับคืนสู่เวทีการเมืองของอันวาร์ ผู้ที่ถูกขับออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 1998 ก่อนถูกจำคุกในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศและคอร์รัปชัน ที่เขาระบุว่าเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม การเปิดโปงเรื่องพิศวงหักมุมละครการเมืองเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลัง บาลาซูบรามาเนียม เปรูมาล นักสืบเอกชนพลิกคำแถลงของตนเองอย่างฉับพลันในเวลาไม่ถึง 24 ชม.จากคำแถลงฉบับเดิมที่กล่าวหาว่า อันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 60 ปี แกนนำพรรคฝ่ายค้าน มีเพศสัมพันธ์กับไวฟัล บูคารี ผู้ช่วยวัย 23 ปี
แต่ไม่นานได้เบี่ยงประเด็นมากล่าวหานาจิบ ราซัก รองนายกรัฐมนตรีว่า เคยมีสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับ น.ส.อัลตันตูยา ชาอาริอิบู ล่ามสาวชาวมองโกเลีย วัย 28 ปี หนึ่งในทีมที่ปรึกษาของนาจิบ ซึ่งถูกฆาตกรรมเมื่อปี 2006
คนใกล้ชิดของนาจิบอยู่ระหว่างถูกพิจารณาคดีในข้อหาส่งเสริมการฆาตกรรม ส่วนรองนายกรัฐมนตรีรายนี้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าเขามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเหยื่อ ซึ่งศพถูกเผาทิ้งไม่เหลือซากกลางป่านอกกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อทำลายหลักฐาน
ขณะเดียวกัน เมื่อวันเสาร์ (5) เปรูมาล ได้หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมกับภรรยาและบุตร 3 คน ขณะที่ บากรี ซินิน หัวหน้าตำรวจหน่วยสืบสวนอาชญากรรม (ซีไอดี) บอกว่า ตำรวจมาเลเซียได้รับคำสั่งให้เร่งตามหาตัวเขา พร้อมกับได้แจ้งไปยังตำรวจสากลและตำรวจในประเทศเพื่อนบ้านด้วย