เอเอฟพี - บรรดาผู้นำของกลุ่ม 8 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี 8) วานนี้ (6) ทยอยเดินทางถึงเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น แต่ถึงแม้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ ให้คำมั่นที่จะแสดงบทบาท “สร้างสรรค์” ในการหารือประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ความหวังที่จะสามารถผ่าทางตันในวาระสำคัญยิ่งของการประชุมซัมมิตคราวนี้ก็ยังคงมืดมน เพราะเขายังคงกดดันพวกประเทศกำลังพัฒนาต่อไป
ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าภาพของการประชุมระดับผู้นำกลุ่มจี 8 เป็นเวลา 3 วันคราวนี้ตั้งแต่วันจันทร์ (7) ได้พยายามผลักดันให้เกิดความคืบหน้าในเรื่องการต่อสู้ปัญหาโลกร้อน แต่พวกนักสิ่งแวดล้อมบอกว่า ซัมมิตคราวนี้คงยากที่จะมีข้อตกลงระดับกว้างไกลอะไร
“ครับ ผมจะมีความสร้างสรรค์” บุช บอกกับที่ประชุมแถลงข่าวร่วมวานนี้ หลังจากพบหารือกับนายกรัฐมนตรียาสึโอะ ฟุคุดะ ของญี่ปุ่น ก่อนหน้าการประชุมผู้นำจี 8 ณ เมืองโทยาโกะ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศบนภูเขา
“ผมยังมองโลกในความเป็นจริงเพียงพอที่จะบอกกับพวกคุณด้วยว่า ถ้าหากจีนกับอินเดียไม่มีส่วนร่วมในความมุ่งมาดปรารถนาเดียวกันนี้ เราก็จะยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้หรอก” บุชกล่าวต่อ
การประชุมผู้นำจี 8 คราวนี้ ประเด็นที่สำคัญ ก็คือ ปัญหาความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก และภาวะโลกร้อน
“ผู้เข้าร่วมประชุมในปีนี้จะเจรจากันในหลายประเด็นด้วยกัน ซึ่งรวมทั้งภาวะอันตรายที่กำลังเกิดขึ้นจากการที่ราคาน้ำมันดิบและราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศโลก” ฟูกูดะแถลงไว้ตั้งแต่ก่อนหน้าหารือกับบุช
“นอกจากนั้น ยังมีประเด็นความช่วยเหลือระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาแอฟริกา และภัยคุกคามสันติภาพของโลกที่มาจาก 2 ด้าน คือ การขยายตัวอาวุธที่มีศักยภาพทำลายล้างมหาศาล และการก่อการร้าย”
ผู้นำกลุ่มจี 8 อันได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น อิตาลี รัสเซีย แคนาดา และสหรัฐฯ กำหนดประชุมกันเองก่อน 2 วัน จากนั้น ในวันพุธ (9) ก็จะมีผู้นำจากอีก 15 ประเทศเข้าร่วมประชุม ในวาระโลกร้อนและปัญหาความยากจน คือ จีน อินเดีย บราซิล ออสเตรเลีย และอีก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกา
แองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี กล่าวว่า ผู้นำกลุ่มจี 8 จะตกลงกันในเรื่องขั้นตอนการจัดการกับปัญหาราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น และหาทางที่จะรับประกันว่าปริมาณผลผลิตจะเพียงพอกับความต้องการ
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐมนตรีคลังของกลุ่มจี 8 ได้กล่าวเตือนว่าการที่ราคาน้ำมันดิบและราคาอาหารสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ทำให้เกิด “ปัญหาท้าทายอย่างหนักต่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพทั่วโลก” และอาจจะทำให้ปัญหาความยากจนรุนแรงยิ่งขึ้นและกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอีก
สื่อมวลชนญี่ปุ่น รายงานว่า กลุ่มจี 8 คงจะตกลงกันในเรื่องการจัดตั้งคณะทำงานว่าด้วยวิกฤตการณ์อาหารขึ้นชุดหนึ่ง ส่วนประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศโลกจะเป็นประเด็นสำคัญในวาระการประชุมของวันพุธซึ่งจะมีกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ เข้าร่วมประชุมด้วย
ทั้งนี้ หวังกันว่า บรรดาผู้นำจี 8 จะให้คำมั่นว่าจะเป็นผู้นำในการพยายามลดการปล่อยก่ซเรือนกระจกลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2050 หลังจากที่ได้เคยตกลงกันเมื่อปีที่แล้วว่าจะ “พิจารณาอย่างจริงจัง” ต่อเป้าหมายดังกล่าว
หนังสือพิมพ์โยมิอูริ รายงานว่า การเจรจายังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่ผู้นำกลุ่มจี 8 จะประกาศอย่างเป็นทางการว่า “กลุ่มจี 8 จะเป็นผู้นำในการหาหนทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือก๊าซอื่นๆ ที่ส่งผลอย่างเดียวกัน ลงให้ได้ครึ่งหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่การประชุม คาดว่า คำประกาศดังกล่าวคงถูกต่อต้านอย่างหนัก โดยเฉพาะจากผู้นำสหรัฐฯ และจะทำให้ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้น และฟูกูดะเองก็ได้เลิกล้มความหวังที่จะกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามระยะเวลาดังกล่าว หลังจากที่ข้อตกลงในพิธีสารเกียวโตสิ้นสุดลงในปี 2012 เช่นกัน