เอเอฟพี - ราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงได้ทำให้ห้วงเวลานี้กลายเป็นยุคทองของอุตสาหกรรมน้ำมันไป ในขณะเดียวกันแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ก็ได้รับค่าแรงเพิ่มหลายเท่าตัว อันเนื่องจากการขาดแคลนแรงงานที่มีความชำนาญสูง
ระหว่างการประชุมเวิลด์ ปิโตรเลียม คองเกรสที่กรุงมาดริด ประเทศสเปนตลอดสัปดาห์นี้ ประเด็นหนึ่งที่บรรดาผู้บริหารบริษัทน้ำมัน แสดงกังวลมากที่สุดก็คือ การหาพนักงานใหม่ๆ รวมทั้งการรักษาพนักงานเดิมให้ทำงานกับบริษัทในระยะยาว บริษัทเหล่านี้พยายามมองหานักธรณีวิทยา,วิศวกร และผู้จัดการโครงการมาทำงานให้ แต่ก็พบว่าคนที่มีความเชี่ยวชาญอย่างต้องการมีน้อยเต็มที
เวลานี้ "เงินเดือนของพนักงานทุกระดับต่างพุ่งขึ้น" เฟดริก เรนเจอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเวิลด์ไวด์เวิร์กเกอร์ บริษัทเชี่ยวชาญการจัดหางานให้กับธุรกิจน้ำมันและก๊าซกล่าวกับเอเอฟพี
"สำหรับพนักงานที่มีความชำนาญเฉพาะ ค่าจ้างนั้นพุ่งขึ้นพอๆ กับราคาน้ำมันในตลาดโลกเลยทีดียว อย่างเช่น วิศวกรที่ปรึกษา วันนี้เขาอาจจะได้ค่าจ้าง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน แต่วันพรุ่งนี้ค่าจ้างของพวกเขาอาจจะขึ้นเป็น 1,800 ดอลลาร์ต่อวัน"
ผู้ที่เข้าร่วมประชุมอีกคนหนึ่ง เล่าว่า เธอได้ยินมาว่าวิศวกรด้านปิโตรเลียมที่เพิ่มจบจากมหาวิทยาลัยมาหมาดๆ ได้รับการว่าจ้างด้วยราคา 100,000 ดอลลาร์ต่อปีเลยทีเดียว
แม้ว่าแรงงานเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่ทำให้อุตสาหกรรมไม่สามารถเพิ่มผลผลิตได้เท่าที่ควร โดยในอีกด้านหนึ่ง อุตสาหกรรมน้ำมันก็ยังต้องเผชิญการขาดแคลนแท่นขุดเจาะ รวมทั้งโรงงานกลั่นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนในด้านแรงงาน ก็กำลังอยู่ในภาวะสาหัสมาก
"บริษัทน้ำมันทุกแห่ง รวมไปถึงบริษัทขายน้ำมันและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ต่างก็ตระหนักดีถึงปัญหา" ไมเคิล เคนเนก ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมน้ำมันของดีลอยต์ บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจบอก
ขณะที่ มาร์เซล่า โดนาดิโอ นักวิเคราะห์ธุรกิจพลังงานของเอิร์นส์ แอนด์ ยัง บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจชื่อดังอีกแห่งหนึ่ง ชี้ว่า การขาดแคลนบุคลากรและการที่แรงงานพากันเปลี่ยนงานเพื่อเงินเดือนสูงกว่าเป็นว่าเล่น กำลังรบกวนและบ่อนทำลายความสามารถของพวกบริษัทน้ำมัน ทั้งในด้านการสร้างนวัตกรรมและการหาแหล่งน้ำมันใหม่ๆ
เธอบอกว่า ตำแหน่งขาดแคลนมากที่สุดก็คือ วิศวกร และนักธรณีวิทยา แต่ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมก็ยังต้องการนักการเงินและนักบัญชีที่มีประสบการณ์สูงกับธุรกิจด้านพลังงานด้วย
ความขาดแคลนทำให้มีข้อเสนอไม่เพียงแค่เงินเดือน หากยังผลประโยชน์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอนุพันธ์ออปชั่นหุ้น,เงื่อนไขการทำงานที่ยืดหยุ่น และโบนัสให้แก่พนักงานในตำแหน่งซึ่งเป็นที่ต้องการมาก นอกจากนี้ บรรดาผลประโยชน์ที่ครั้งหนึ่งเคยสงวนไว้เฉพาะพวกผู้บริหารระดับท็อป เวลานี้ก็กำลังขยายลงสู่พนักงานระดับล่างๆ ลงมาเช่นกัน
โดนาดิโอ บอกว่า ภาวะขาดแคลนแรงงานชำนาญงานในเวลานี้ อาจย้อนกลับไปถึงยุคธุรกิจน้ำมันถดถอยซบเซาในทศวรรษ 1980 เมื่อราคาน้ำมันทรุดฮวบและการลงทุนอยู่ในระดับติดลบ โดยมีช่วงเวลาสิบปีที่เดียวที่ไม่มีบุคคลที่มีฝีมือเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้
ยิ่งกว่านั้น พวกผู้ชำนาญพิเศษที่เกิดในช่วง "เบบี้บูมเมอร์" หรือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวลานี้ก็กำลังคิดจะเกษียณอายุ เท่ากับว่าจะมีกำลังคนที่มีความชำนาญสูงหายไปจากบริษัทอีกไม่น้อย ขณะที่ยังหาคนใหม่มาแทนไม่ได้
ผลพวงประการหนึ่งของการขาดแคลนบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ได้แก่การที่เวลานี้พวกบริษัทน้ำมันกำลังมองหาคนมาทำงานจากประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ๆ และแถบเอเชียกันเพิ่มมากขึ้น
"ตามประเพณีที่เป็นมา พวกบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ทั้งหลายต่างก็มี "โนว-ฮาว" ที่เป็นชาวตะวันตกอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้คุณจะได้เห็นผู้จัดการและวิศวกรจำนวนมากเลยที่มาจากเอเชีย นั่งในตำแหน่งอาวุโสระดับระหว่างประเทศ" เรนเจอร์ส แห่งเวิลด์ไวด์เวิร์กเกอร์กล่าว "และพวกจบใหม่จำนวนมากที่กำลังได้รับการว่าจ้างก็มาจากพวกประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่"