เอเอฟพี/เอเจนซี - ผู้มั่งคั่งมีเงินตั้งแต่ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไปในทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นมา 6% ในปีที่แล้ว ทำให้เวลานี้พื้นพิภพของเรามีมหาเศรษฐีระดับนี้อยู่ 10.1 ล้านคน โดยที่ประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่อย่างจีน อินเดีย บราซิลมีจำนวนผู้มั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากที่สุด
ข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานความมั่งคั่งในโลก ซึ่งจัดทำโดยเมอริลลินช์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และแคปเจมิไน กลุ่มกิจการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยรายงานของปีนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 12 แล้ว ได้เน้นย้ำให้เห็นอิทธิพลบารมีของพวกประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ที่กำลังเพิ่มทวีขึ้นในเวทีการเงินของโลก
รายงาน ระบุว่า มูลค่าสินทรัพย์รวมของบรรดามหาเศรษฐีเหล่านี้เพิ่มขึ้น 9.4% จากปี 2006 เป็น 40,700,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ส่วนเมูลค่าสินทรัพย์ฉลี่ยรายหัวก็เพิ่มขึ้นจนทะลุระดับ 4 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก แถมมีมหาเศรษฐีทั่วโลก 103,320 คนที่มีสินทรัพย์เกิน 30 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 8.8% จากปีก่อนหน้า
โรเบิร์ต แมคคานน์ ประธานของกิจการบริหารความมั่งคั่งแห่งโลกของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า "รายงานปีนี้พบว่าจำนวนของปัจเจกบุคคลที่มีความมั่งคั่งสุทธิอยู่ในระดับสูง (ซึ่งก็คือ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอันไม่รวมที่อยู่อาศัยปัจจุบัน ในระดับตั้งแต่ 1.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไป) รวมทั้งปริมาณความมั่งคั่งที่พวกเขาถือครองอยู่ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปในปี 2007 โดยที่กำลังมีการสร้างความมั่งคั่งกันมากที่สุดในหมู่ประเทศตลาดเฟื่องฟูใหม่ อย่าง จีน อินเดีย และบราซิล"
นอกจากนั้น รายงานยังทำนายว่า ถึงแม้จะมีความผันผวนในเศรษฐกิจโลก "แต่พื้นฐานอันแข็งแกร่งของตลาดเฟื่องฟูใหม่ จะยังทำให้ความมั่งคั่งในประเทศเหล่านี้เติบโตในอัตราสูงต่อไป" ในปี 2008
ส่วนปัจจัยที่จะมาหน่วงเหนี่ยวการเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็คือการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะที่ในเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่จะเป็นเรื่องภาวะเงินเฟ้อ ที่กำลังสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับข้อมูลรายประเทศนั้น ปี 2007 อินเดียมีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ 22.7% จนมีจำนวนทั้งสิ้น 123,200 คน ตามมาด้วยจีนที่สูงขึ้น 20.3% เป็น 415,000 คน ส่วนบราซิลเพิ่ม 19.1% นอกจากสามประเทศนี้แล้ว เกาหลีใต้ อินโดนีเซียและสิงคโปร์ก็มีจำนวนมหาเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราสูงด้วยเช่นกัน กล่าวคือ โสมขาวเพิ่ม 18.9% เป็น 118,000 คน,แดนอิเหนาเพิ่ม 16.8% เป็น 23,000 คน และแดนลอดช่องเพิ่ม 15.3% เป็น 77,000 คน
หากคำนวณตามภูมิภาค ตะวันออกกลางจะมีจำนวนมหาเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ 15.6% ยุโรปตะวันออก 14.3% และละตินอเมริกา 12.2% เหตุผลเบื้องหลังก็คือราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งพรวด "รวมทั้งที่มีการยอมรับกันในระดับระหว่างประเทศกันมากขึ้นว่า ศูนย์กลางการเงินในเขตเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ ได้กลายมาเป็นผู้เล่นระดับโลกที่สำคัญไปแล้ว"
แต่เหตุผลส่วนบุคคลที่ทำให้ความมั่งคั่งของพวกมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น ก็คือ มูลค่าหุ้นในตลาดที่ทะยานขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะที่อินเดียที่มูลค่าหุ้นในตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่า 118% เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่จีดีพีขยายตัว 7.9% ส่วนในจีนมูลค่าหุ้น 291% และจีดีพีขยายตัว 11.4%
จำนวนมหาเศรษฐีที่เพิ่มขึ้น ยังทำให้สินค้าฟุ่มเฟือยขายดีไปด้วย เนื่องจากมหาเศรษฐีก็ย่อมต้องการที่จะใช้สินค้าหรูหราเพื่อบอกฐานะของตนเอง เครื่องเพชร,อัญมณีและนาฬิกาหรูหราได้รับความสนใจเป็นพิเศษทั้งในเอเชียและตะวันออกกลาง นอกจากนี้สินค้าที่บ่งบอกรสนิยมวิไลอย่างเช่น งานศิลปะ,เรือยอชต์,เครื่องบินเจ๊ตส่วนตัว และอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมไปด้วย
รายงานระบุว่าในแต่ละภูมิภาคต่างก็มีหนทางการใช้เงินที่ต่างกันไป อย่างเช่น มหาเศรษฐีเอเชียมักใช้เงินไปในการท่องเที่ยวหรูหรา อย่างเช่น ไปเยือนสปาชั้นเลิศ ซื้อเสื้อผ้าของนักออกแบบชื่อดัง